รวบหนุ่มทาสยาบ้าวนเวียนเข้าออกคุกหลายครั้งเรียนวิชามารใช้ไพ่และกรรไกรขนาดเล็กสะเดาะกุญแจมาจากเรือนจำ ล่าสุดพึ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำสมุทรปราการเมื่อปลายปี 62 ออกตระเวนสะเดาะกุญแจห้องตามหอพักเข้าไปลักทรัพย์มานับสิบครั้งหาเงินซื้อยาบ้ามาเสพ สุดท้ายไม่รอดถูกตามรวบขณะเดินหาห้องเหยื่อตามหอพักย่านบางนา
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ พ.ต.ท.ศิริมงคล สุขะปารมี รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ชาญชัย ฤทธิฤาชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.สุวพงษ์ ทองประไพ สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายวิมล จันทร์เทพา อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลาง อุปกรณ์ก่อเหตุ 1 ชุด กระเป๋าสะพาย 1 ใบ เสื้อผ้าชุดที่ใส่ก่อเหตุ พระเครื่องกว่า 1 พันองค์ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินเหรียญ 300 บาท โดยจับกุมได้ที่บริเวณกลางซอยจ่าโสด 23 ชุมชนกลางนา แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายหลายราย ว่ามีคนร้ายสะเดาะกุญแจห้องเข้าไปลักทรัพย์ภายในห้องพักซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องเช่าและหอพัก และรายล่าสุดซึ่งพักอาศัยอยู่ที่อาคารศุภกิจเพลส ซอยแบริ่ง 50 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ คนร้ายได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ซึ่งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุ สวมหมวกแก๊ปเพื่ออำพรางใบหน้า และสะพายกระเป๋า น่าจะเป็นคนเดียวกัน รถจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งที่หน้าอพาร์ทเม้น โดยจะเลือกหอพักที่ไม่มี รปภ. หรือประตูคีย์การ์ด โดยจะทำที่เป็นผู้เช่าเดินเข้าไปสำรวจตามห้องอาศัยช่วงที่คนไม่อยู่ ใช้อุปกรณ์งัดลูกบิด บางห้องใช้ไพ่กรีดเข้าไปในร่องประตูสะเดาะกุญแจลูกบิดเข้าไปในรื้อเอาของมีค่าก่อนหลบหนีไป และจากการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายวิมล จันทร์เทพา อายุ 44 ปี เคยมีประวัติถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ มาแล้วหลายครั้ง และพึ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปลายปี 62 จากเรือนจำกลางสมุทรปราการ จึงนำกำลังไปจับกุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการมูลค่ากว่า 1 แสนบาท
จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้วนับสิบครั้งในพื้นที่ สำโรงเหนือ และ กรุงเทพ โดยได้เรียนรู้และเทคนิคการนำกรรไกรตัดขนมาทำเป็นกุญแจผีใช้เสียบไขกุญแจลูกบิด และวิธีการใช้ไผ่รูดสะเดาะกุญแจลูกบิด ที่เรียนรู้มาจากพรรคพวกในเรือนจำ มาตระเวนก่อเหตุ ของมีค่าที่ได้มาก็จะเอาไปขาย เพื่อซื้อยาบ้ามาเสพ และเที่ยวเตร่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า หาลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายต่อสิ่งกีดกั้น ก่อนคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
