X

ป้าแท็กซี่หัวร้อน ควงอีโต้ขู่ฟันกระบะ เหตุฉุนเบรกกะทันหัน ขนส่งสั่งพัก 30 วันปรับ 1 พันบาท

ป้าโชเฟอร์แท็กซี่หัวร้อน เหตุฉุนเพราะเบรกกะทันหัน ควงมีดอีโต้ขู่จะฟันกระบะ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้เชิญตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาสอบปากคำ ก่อนเปรียบเทียบปรับคนขับรถแท็กซี่ ด้านขนส่งสั่งพักใช้ใบขับขี่เป็นระยะเวลา 30 วัน พร้อมปรับ 1 พันบาท

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปมีปากเสียงกับป้าคนขับแท็กซี่ ซึ่งในคลิปจะเห็นว่าป้าคนขับแท็กซี่ มีการถือมีดพร้ามาข่มขู่ โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า ” ขอนอกเรื่องหน่อยนะคะ พอดีเรากำลังขี่รถไปทำงาน พอดีรถคันหน้าเขาเบรกจะเลี้ยว เราก็เลยเบรกเหมือนกันเพื่อที่จะไห้รถคันหน้าเขาเลี้ยว แต่แท็กซี่คันนี้เขาวิ่งตามตูดเรามา ก็มาบีบแตรด่าหาว่าเราจะเบรกไห้เขาชนท้ายเรา อยากจะถามเขาว่าเราจะเบรกไห้เขาชนท้ายเพื่ออะไรคะ นะตอนนั้นถ้าเราไม่เบรกเราก็ชนท้ายหรือไม่ก็ชนข้างคันอื่นเขา #มาด่าเราไม่พอยังถือมีดอีโต้ลงมาด้วย นะตอนนั้นถ้าเราไม่ใจเย็นหน่อยไม่รู้อะไรจะเกิดขื้น ฝากถึงศูนย์แท็กซี่ช่วยดูด้วยนะคะ” ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 17 มิถุนายน 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ  ได้เชิญตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาทำการสอบปากคำที่โรงพัก สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ก่อนที่จะเปรียบเทียบปรับป้าคนขับรถแท็กซี่คนดังกล่าว ในข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

นายเบญจมาศ ทองศรีสุก คนขับรถกระบะ ได้เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่ 16 มิถุนายน  เวลาประมาณ 15.30 – 16.00 น. ขณะที่ตนขับรถกระบะจะไปรับคนงานย่านบางนากับแฟนสาว โดยขับเข้าซอยวัดคลองปลัดเปรียง ซึ่งเป็นทางแยกและมีรถขับตัดหน้าตนจึงเบรก ขณะเดียวกันก็สังเกตว่ามีแท็กซี่ขับตามมาและเบรกกะทันหันเช่นกัน ทำให้หญิงคนขับรถแท็กซี่ไม่พอใจได้บีบแตรใส่และเปิดกระจกด่าตน ด้วยถ่อยคำหยาบคาย ซึ่งตนก็ไม่ได้สนใจอะไรเนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้หญิง ตนจึงขับรถออกมาตามปกติ  แต่ขณะที่ตนขับรถมาถึงหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองบางแก้ว  หญิงคนดังกล่าวได้ขับรถแท็กซี่แซงรถตนขึ้นมาก่อนที่จะจอดรถขวางหน้ารถของตน จากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้ลงจากรถพร้อมเดินเข้ามาด่าเป็นชุด เพื่อตัดความรำคาญตนจึงขับรถแซงรถแท็กซี่คันดังกล่าวไป  แต่แท็กซี่คนดังกล่าวไม่ละความพยายามได้ขับรถขึ้นตีคู่ ไม่ให้ตนแซง และขณะที่ตนกำลังจะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หญิงคนขับแท็กซี่ได้ขับรถเลี้ยวตามเข้ามาอีกและจอดรถขวางหน้ารถตน  ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะเปิดประตูลงมาจากรถพร้อมด้วยมีดอีโต้ ถืออยู่ในมือ ก่อนที่จะเดินเข้าด่าตนอีกเป็นชุด ซึ่งตนก็พยายามอธิบายให้หญิงคนดังกล่าวฟังว่ามีรถขับตัดหน้ารถตนจึงต้องเบรก  แต่หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ฟัง แถมยังหาว่าตนตั้งใจเบรกเพื่อหวังจะให้ชน ซึ่งในขณะที่หญิงคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวถือมืดอีโต้ลงมาด่าตน ในรถแท็กซี่ที่หญิงคนดังกล่าวขับมายังมีผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้หญิงนั่งอยู่ในรถด้วย ตนพยายามใจเย็นและ แต่ดูอารมณ์ของอีกฝ่ายนั้นค่อนข้างหงุดหงิดมาก ซึ่งขณะเกิดเหตุภรรยาตนที่นั่งมาในรถได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปเอาไว้ทั้งหมด   โดยเรื่องดังกล่าวตนไม่ได้ติดใจหรือแจ้งความแต่อย่างใด

ด้านนางเกศรา แสงสว่าง อายุ 52 ปี คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถตามหลังกระบะมา พอมาถึงทางแยกรถกระบะที่ขับอยู่หน้ารถตนได้เบรกกะทันหัน ซึ่งตนก็ได้สังเกตว่ามีรถกำลังจะออกมาจากทางแยกจริง แต่รถคันนั้นยังไม่ได้ออก หากชนขึ้นมาตนก็เป็นคนผิดอีก ยอมรับว่าโมโหมาก จึงได้เปิดกระจกด่าไป ซึ่งอีกฝ่ายก็ด่าตนเช่นกัน  ส่วนมีดอีโต้นั้น ที่พกมาด้วยไม่ได้มีเจตนาไว้ทำร้ายใคร แต่เนื่องจากก่อนหน้านั้นรถเสียสตาร์ทไม่ติดจึงเอาเข้าอู่ช่างบอกว่าให้หาเหล็กมาเคาะที่ไดสตาร์ท แล้วจะสตาร์ทติด ตนจึงเอามีดอีโต้พกไว้บริเวณข้างประตูรถ และยอมรับว่าขณะนั้นมีผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิงนั่งอยู่ในรถ และเข้าใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวไม่หนีลงจากรถ และเมื่อคลิปดังกล่าวที่เผยแพร่ออกไป ตนไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนี้ยังถูกคนในโซเชียลต่อว่า ตั้งใจว่าจะไปปรึกษาทนายเพื่อให้ดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทอีกด้วย

ล่าสุดกรมการขนส่งทางบก ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “พักใช้ใบขับขี่ 30 วัน” ตามที่มีสื่อนำเสนอข่าว ผู้ขับรถยนต์สาธารณะ (รถแท็กซี่) สีชมพู คันหมายเลขทะเบียน ทห-3248 กทม. มีพฤติกรรมข่มขู่ แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ และแสดงอาวุธมีดในที่สาธารณะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของการขนส่งสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก ตรวจสอบรถแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นของสหกรณ์สหมิตรแท็กซี่ จำกัด โดยผู้ขับรถชื่อ น.ส.เกศรา แสงสว่าง กองตรวจการขนส่งทางบก พิจารณาแล้วพฤติกรรมดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522  1. มาตรา 54 (4) ประกอบ มาตรา 54 ว.2 มีคำสั่งยึดใบอนุญาตขับรถไว้เป็นระยะเวลา 30 วัน ฐานมีพฤติกรรมทำลายความสงบสุขในถนนหรือทางหลวง รบกวนคนขับรถด้วยกันหรือผู้โดยสาร 2. มาตรา 57 ฉ (2) ประกอบมาตรา 66/2 เปรียบเทียบปรับในอัตราโทษสูงสุด เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท ฐานแสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ 3. ส่งตัวเข้ารับการอบรมมารยาทและความปลอดภัยในการขับขี่และการให้บริการเป็นระยะเวลา 3 ชั่วโมง บันทึกประวัติความผิด พร้อมทั้งกำชับ ตักเตือนมิให้เกิดเรื่องร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวอีก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน