ญาติ 4 ศพจมน้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี นำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสวมส้มย่านสำโรงใต้ คืนนี้เป็นคืนแรกไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2563 แต่ก็ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะเผาเลยหรือไม่
จากกรณี 4 นักท่องเที่ยวที่จมน้ำเสียชีวิตในอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ที่ 30 ธันวาคม 2562 ซึ่งทั้ง 4 เป็นจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายธนพรรณ ทองจรัส อายุ 21 ปี นายศุภกรณ์ โสรส อายุ 22 ปี นายบุญญฤทธิ์ ภักดีถวัลย์ อายุ 20 ปี และนายปรีชา โสมมา อายุ 21 ปี
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันนี้ที่ 31 ธันวาคม 2562 ทางมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน ได้นำร่างไร้วิญญาณของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 เดินทางมาถึงวัดสวนส้ม ต.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งทางญาติได้เปิดศาลาการเปรียญเอาไว้ 4 ศาลาเพื่อนำศพทั้ง 4 มาตั้งเพื่อบำเพ็ญกุศลตามศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องที่เดินทางมาร่วมรอรับศพผู้ตายทั้ง 4 ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ในชุมชนวัดสวนส้มทั้งหมด โดยญาติได้ตั้งใจสวดคืนนี้เป็นคืนแรกไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2563 แต่ก็ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะเผาเลยหรือไม่
โดยนายศรายุทธ นุวงษ์ศรี อายุ 21 ปี เพื่อนผู้ตายทั้ง 4 ที่เสียชีวิตและอยู่ในเหตุการณ์ได้เล่าว่า พวกตนเดินทางไปถึงจุดกลางเต้นในช่วงประมาณบ่าย 2 โมงของวันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมาหลังจากนั้นก็ช่วยกันกลางเต้นพักและจัดซื้ออาหารและเครื่องดื่มมานั่งดื่มกันอยู่พักใหญ่ก่อนที่ นายณรงค์ฤทธิ์ มีคุณ อายุ 21 ปีและผู้ตายทั้งหมดประกอบด้วย นายธนพรรณ นายศุภกรณ์ และนายบุญญฤทธิ์ จะชวนกันไปพายเรือ โดยมีเรือแคนูจอดเกยตื้นอยู่ที่ริมหาดทะเลสาบ โดยนายณรงค์ฤทธิ์ ได้ตะโกนถามคนงานเจ้าของพื้นที่กางเต้นขออาเรือออกไปพายเล่น ซึ่งคนงานก็บอกว่าเอาออกไปเลย ซึ่งในเรือก็ไม่มีเสื้อชูชีพให้ใส่ แต่ด้วยความอยากเล่นทั้งหมดจึงพายเรือออกไปเล่นห่างจากฝั่งประมาณ 20-30 เมตรและพายอยู่ได้พักใหญ่ก่อนที่เรือจะค่อย ๆ จมลงและเห็นเพื่อที่นั่งในเรือกระโดดลงลอยคออยู่ในน้ำและพยายามว่ายน้ำเข้าฝั่งพร้อมทั้งร้องขอความช่วยเหลือ ตนซึ่งนั่งดื่มอยู่บนฝั่งและลืมตัวว่าตัวเองก็ว่ายน้ำไม่แข็งได้กระโดดลงไปว่ายไปได้ประมาณครึ่งทางจนขายันไม่ถึงพื้นก็รู้สึกเหนื่อยและหมดแรงจึงรีบตะเกียดตะกายเข้าฝั่ง นายณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งอยู่ในจุดที่เกิดเหตุก็ว่ายน้ำตามหลังตนมาด้วยอาการหมดแรงพร้อมตะโกนให้คนลงไปช่วยพรรคพวกที่เหลือ นายปรีชา ซึ่งนั่งตกปลาอยู่บนฝั่งได้กระโดดว่ายน้ำไปช่วยแต่คาดว่าน่าจะหมดแรงเช่นกันจึงจมน้ำเสียชีวิตไปด้วย
นายณรงค์ฤทธิ์ ผู้ที่รอดชีวิตมาได้ ได้เล่าว่า ก่อนที่จะเอาเรือออกไปพายเล่นกันตนก็ถามทุกคนแล้วว่าว่ายน้ำเป็นหรือเปล่าทุกคนกบอกว่าว่ายน้ำเป็น ตนจึงได้พากันพายเรือออกไปเล่นกันกลางน้ำ แต่หลังจากพายไปได้พักใหญ่ห่างจากฝั่งประมาณ 30-40 เมตรได้มีน้ำเข้ามาในเรือจำนวนมากก่อนที่เรือจะจมและเพื่อนก็กระโดดลงไปในน้ำก่อน 2 คนนายบุญญฤทธิ์ กับนายธนพรรณ และทั้งสองพยายามว่ายน้ำเข้าฝั่ง เหลือเพียงตนและศุภกรณ์ ที่ยังเกาะเรืออยู่และพยายามช่วยกันกู้เรือขึ้น แต่นายศุภกรณ์ ไม่ไหว ก็เกาะเรืออยู่กันคนละฝั่ง พอเราเกาะจะเอาเรือขึ้นเรือมันก็หมุนหนีตลอดตนจึงบอกให้นายศุภกรณ์ ว่ายน้ำเข้าฝั่งไปก่อนเดี๋ยวตนตามไปคนสุดท้ายถ้าเอาเรือขึ้นได้ตนจะไปรับ แต่สภาพที่นายศุภกรณ์ ว่ายน้ำกลับไปน่าจะมีอาการล้าเพราะพยายามเอาเรือขึ้นอยู่หลายรอบ แต่พอตนเห็นว่าเอาเรือขึ้นไม่ได้แล้วบวกกับอาการล้า จึงตัดสินใจว่ายน้ำเข้าฝั่งโดยที่ไม่ทันมองใคร แต่ก็ได้ยินเสียงนายศุภกรณ์ ตะโกนบอกว่าเอากูไปด้วยกูไม่ไหวแล้ว ซึ่งอตนนั้นทุกคนเรียกตนทุกคนให้ช่วยพากลับเข้าฝั่งด้วย แต่ตนก็คิดว่าถ้าตนกลับไปตอนนั้นตนก็ไม่ไหวเหมือนกันต้องจมน้ำตายแน่จึงตัดสินใจว่ายเข้าฝั่ง และตะโกนบอกให้คนไปช่วยพวกที่เหลือ และเห็นนายปรีชา ที่นั่งตกปลาอยู่ได้กระโดดลงไปจะช่วยเพื่อน แต่ก็ไม่รอด ตนเสียใจมากที่ช่วยเพื่อนไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ แท้ ๆ แต่ถ้าตนไปช่วยก็คงจมไปอีกคนรู้สึกเสียใจมากจริง ๆ
