X

เปิดใจสาวขับรถเก๋งทับทีมยึดรถเจ้าตัวอ้างอีกฝ่ายไม่แสดงตนและไม่มีหมายศาล เตรียมฟ้องกลับ

เปิดใจสาวขับรถเก๋งทับ 1 ใน กลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 ราย ที่จะมายึดรถ เจ้าตัวอ้างอีกฝ่ายไม่แสดงตนและไม่มีหมายศาล เตรียมฟ้องกลับข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์และความผิดตาม พ.ร.บ.ทวงหนี้

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอของผู้ใช้เฟสบุ๊ค  Phanthawee  Hlongbangplee    ซึ่งล่าสุดเจ้าของได้ปิดเฟสบุ๊คดังกล่าวไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้มีการออกมาโพสต์คลิปวีดีโอ ขณะเกิดเหตุการณ์ที่กลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนเข้าล้อมรถของผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงวัย41ปีเพียงลำพังก่อนจะพยามสั่งให้หยุดรถเพื่อจะยึดรถตามที่ได้รับมอบหมายมาเนื่องจากผู้เสียหายค้างค่างวดต่อไฟแนนท์ โดยผู้โพสต์ได้โพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความ #ขับรถทับ_ทีมยึดรถ    ซึ่งหลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ออกมาไม่นานก็มีการแชร์คลิปและแสดงความคิดเห็นจำนวนมากจนกลายเป็นประเด็นร้อนทางสังคมออนไลน์ ล่าสุดมีการลบโพสต์และปิดเฟสไปแล้ว

ล่าสุดในช่วงเย็นของวันนี้ที่ 16 มิถุนายน 2561 ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบผู้เสียหายหญิงวัย 41 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถวันเกิดเหตุอีกครั้ง โดยหญิงสาวรายนี้ ได้เล่าว่า  วันเกิดเหตุคือวัน พฤหัสบดี ที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. ขณะที่ตนกำลังจะขับรถไปรับลูกชายที่โรงเรียน ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ใส่สูทสีดำประมาณ  4คน ได้เข้ามาล้อมรถตน พร้อมบอกว่ามาจากไฟแนนท์จะมายึดรถ โดยที่ไม่มีการแสดงตนหรือบัตรพนักงานและเอกสารคำสั่งศาลให้ยึดทรัพย์ว่าจะมายึดรถแต่อย่างใด ซึ่งรถคันดังกล่าวเรื่องถึงศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แล้วและศาลอยู่ระหว่างนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ที่จะถึงนี้  และตนก็ไม่แน่ใจด้วยว่ากลุ่มชายดังกล่าวเป็นใครมาจากไหนและจะเอารถไปอย่างใด  อีกทั้งตนก็พยามอธิบายว่ากำลังจะไปรับบุตรคนโตและยังมีบุตรคนเล็กนั่งในรถด้วยเช่นกันหากไม่เชื่อก็ให้ขึ้นรถมากับตนไปรับลูกตนก่อน  แล้วค่อยกลับมาคุยกันอีกครั้ง  แต่กลุ่มชายดังกล่าวไม่ยอมและมีการเข้ามาทุบกระจกรถตนตกใจกลัวจึงพยามเลี้ยวกลับรถเพื่อออกจากจุดดังกล่าวเนื่องจากหวั่นเรื่องความปลอดภัยและจังหวะที่ตนเองเลี้ยวรถนั้นยืนยันว่าไม่เห็นว่ามีหนึ่งในนั้นล้มลงจึงถูกล้อรถตนเหยียบที่ตัว ยันยันว่าไม่มีเจตนา หลังเกิดเหตุตนได้รีบแจ้ง 191 และนำเอาหมอนออกมารองศีรษะให้ชายที่บาดเจ็บเพื่อรอเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาช่วยเหลือ  แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมา กลุ่มชายดังกล่าวได้มีการโทรศัพท์เรียกพรรคพวกอีกเกือบ 20คน และกรูกันเข้าล้อมตนพร้อมขู่ตนว่าจะดำเนินคดีข้อหาพยามฆ่าและยังต้องยึดรถกลับไปให้ได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี เดินทางมาถึงกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดจึงกระจายกันไปยืนรอบนอก

ตนยอมรับว่าค้างค่างวดจริงประมาณ 5 งวด ซึ่งรถคันนี้ตนซื้อมือสองมาในราคาประมาณ 2 แสนกว่า  และผ่อนมาได้ประมาณ 1 ปี มาในช่วงหลัง ตนมีปัญหาในครอบครัวสามีก็แยกทาง  ตนยึดอาชีพขายอาหารตามสั่งเพื่อเลี้ยงลูกสองคน และภาระทุกอย่างตกที่ตนคนเดียว ทำให้รายรับไม่พอกับรายจ่าย และไม่พอส่งค่างวดรถติดค้างอยู่หลายงวดและถูกเรียกเก็บค่าติดตามทวงถามและอื่นๆรวมเงินเพิ่มอีกกว่าหมื่นบาท จนมีการนำเรื่องเข้าสู่ขบวนการของศาล ตนเองก็ยอมที่จะเข้าสู่ขบวนการศาลเพื่อขอไกล่เกลี่ย  ซึ่งศาลได้มีหมายเรียกรับหมายนัดไปแล้ว ซึ่งตนก็ไปรายงานตัวต่อศาลมาแล้วเช่นกัน  ที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับเอกสารอื่นใดจากทางไฟแนนท์เลย นอกจากใบเรียกเก็บค่างวด  การที่มีตัวแทนของไฟแนนท์มาอ้างตัวจะมายึดรถนั้น ตนก็ไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น  สุดท้ายหากถึงขบวนการของศาลและศาลมีคำสั่งยึดรถขายทอดตลาด ตนก็พร้อมให้ความร่วมมือแต่การออกมากระทำเช่นนี้กับผู้หญิงและเด็กน้อย 4 ขวบเช่นนี้ตนมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม

ซึ่งหลังเกิดเหตุและมีการเผยแพร่คลิปจนทำให้ตนเองเสียหายและถูกสังคมตราบหน้าเช่นนี้ นั้นตนก็รับไม่ได้เช่นกันอีกทั้งยังถูกขู่จะดำเนินคดีในข้อหาพยามฆ่า ซึ่งถือว่าในความโชคร้าย แต่ก็ยังพอมีหวังเมื่อมีทนายอาสาในพื้นที่ ติดต่อให้คำปรึกษา หลังจากเห็นคลิปในสื่อต่างๆ โดยเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเดินทางเข้าร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกลับ ตามที่ทนายให้คำปรึกษาไว้ในข้อหา   ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น  และ ร่วมกันพยายามชิงทรัพย์ของผู้อื่น โดยมีผู้กระทำความผิดตั้งแต่สามคนขึ้นไป ซึ่งอาจรวมไปถึงความผิด   ความผิด พ.ร.บ. ทวงหนี้  และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ด้วยเช่นกัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน