ทักษิณ ชินวัตร – ศาลปกครองสูงสุดมีพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่พิพากษายกฟ้อง ชี้การเพิกถอนพาสปอร์ต “นายทักษิณ ชินวัตร” เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
วันนี้ (1 พ.ค.61) ศาลปกครองกลาง อ่านคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดจำนวน ในคดีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฟ้องอธิบดีกรมการกงสุลและปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กรณียกเลิกหนังสือเดินทางจำนวน 2 ฉบับ โดยศาลปกครองสูงสุดได้ยืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง
โดยระบุว่า คำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางชอบด้วยกฎหมาย จากกรณีที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทย ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวพาดพิงต่อองคมนตรี ซึ่งเป็นผู้ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ ในทำนองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
ถ้อยคำดังกล่าวจึงเป็นปรปักษ์กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ระบุว่า การยกเลิกหนังสือเดินทางจึงมีผลเป็นการไม่รับรองให้นายทักษิณสามารถเดินทาง โดยอ้างสิทธิการอนุญาตของประเทศไทยได้อีกต่อไป ซึ่งศาลมีอำนาจแปลความหรือวินิจฉัยถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณได้ว่า เข้าหลักเกณฑ์ข้อห้ามตามที่กำหนดไว้หรือไม่
ทั้งนี้ การที่อธิบดีกรมการกงสุลมีคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่พิพากษายกฟ้อง
ต่อจากนั้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางยกฟ้อง โดยระบุว่า จากคดีดังกล่าว การที่ตนยื่นฟ้องนั้น ตนไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพียงแค่ต้องการอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมของไทย ได้มีโอกาสปรับตัวจากการถูกปรามาสว่า ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จนไม่เป็นที่พึ่งของสังคม
การที่ผมฟ้องไม่ใช่เพราะผมเดือดร้อนอะไร ที่ไม่ได้ใช้หนังสือเดินทางของไทย แต่ผมเพียงต้องการอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมของไทยได้มีโอกาสปรับตัวจากการถูกปรามาส (2)
— Thaksin Shinawatra (@ThaksinLive) 1 พฤษภาคม 2561
