แรงงาน – ที่ประชุม ครม. เห็นชอบอนุมัติ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ โดยห้ามการข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานโดยไม่ได้สมัครใจ ข่มขู่ ขู่เข็ญ หรือใช้กำลังทำร้าย
วันนี้ (1 พ.ค.61) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุม ครม. เห็นชอบอนุมัติ ร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ เนื่องจากประเทศไทยจะต้องดำเนินการให้สัตยาบันพิธีสาร ค.ศ.2014 ว่าด้วยแรงงานบังคับภายในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งพิธีสารฉบับดังกล่าวได้กำหนดพันธะกรณีเฉพาะในการป้องกันการใช้แรงงานบังคับ การคุ้มครองเหยื่อ และการเข้าถึงการเยียวยา โดยประเทศสมาชิกต้องมีนโยบาย รวมถึงแผนปฏิบัติการของประเทศ
สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับฉบับนี้ ได้กำหนดลักษณะความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ ประกอบด้วย การข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานโดยไม่ได้สมัครใจ มีการข่มขู่ ขู่เข็ญว่าจะลงโทษโดยมิชอบ ใช้กำลังทำร้าย ยึดเอกสารสำคัญประจำตัวของบุคคลนั้นไว้ นำภาระหนี้ของบุคคลนั้นหรือบุคคลอื่นมาเป็นสิ่งผูกมัดโดยมิชอบ หรือด้วยวิธีอื่นใดโดยมิชอบที่ทำให้บุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้ หรือไม่ได้สมัครใจที่จะทำเอง ถ้าการกระทำแบบนั้นไม่เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ
นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม. ยังได้มีการกำหนดจัดตั้งกองทุนเพื่อป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับมาช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหาย และกำหนดให้มีคณะกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ประกอบด้วย (1.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ และมาตรการป้องกันและปราบปราม และ (2.) คณะกรรมการกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ จะกำหนดมาตรการช่วยเหลือ คุ้มครองสวัสดิการของผู้เสียหาย รวมถึงกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้กระทำผิด โดยจะคุ้มครองผู้เสียหายที่เป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้พิการ ผู้ที่มีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ และกรณีที่มีการกระทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส เป็นโรคร้ายแรงซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
