X

11 พรรคการเมืองประกาศจุดยืนหนุน”บิ๊กตู่”นั่งเก้าอี้นายกฯ

ตัวแทน 11 พรรคการเมืองประกอบด้วย พรรคไทยรักธรรม, พรรคพลังธรรม, พรรคพลังไทยรักไทย, พรรคประชาธรรมไทย, พรรคพลเมืองไทย, พรรคประชานิยม, พรรคพลังชาติไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคไทยศรีวิไลย์, พรรคประชาภิวัฒน์ และพรรคประชาธิปไตยไหม่ ประกาศจุดยืนหนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว 11 พรรคการเมืองประกอบด้วย นายพีระวิทย์ เรืองลือดลลาภ หัวหน้าพพรคไทยรักธรรม, นายระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรม, นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย, นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย, นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย

พลตำรวจเอก ยงยุทธ เทพจำนงค์ หัวหน้าพรรคประชานิยม, พลตรีทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย, นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน, นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์, นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ หัวหน้าพรรคประชาภิวัฒน์ และนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยไหม่ ร่วมกันแถลงจุดยืนในการสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ทั้ง 11 พรรคการเมืองได้มีการหารือและเห็นว่าการเมืองกำลังอยู่ในช่วงชุลมุนไม่ชัดเจน จึงได้แนวทางการเมืองร่วมกัน และจะยกมือสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง เนื่องจากเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์

และพรรคฯ พร้อมจะสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้หัวหน้าพรรคทั้ง 11 พรรคการเมือง ยังได้เป็น ส.ส. ก็ยังงจะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพร้อมจะคัดค้านหากแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกระทำการอันใดไม่ชอบต่อความสุจริต

ด้านนายสุรทิน กล่าวต่อว่า ฉันทานุมัติของพรรคฯ ได้สอบถามไปยังประชาชน โดยมีความเห็นว่า พลเอกประยุทธ์ มีการบริหารประเทศที่ดี และพรรคก็พร้อมจะให้การสนับสนุนให้พลเอก ประยุทธ์ กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

ขณะที่นายมงคลกิตติ์ เผยว่า พรรคฯได้คะแนน 60,421 คะแนน จากการเลือกตั้ง และในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นตัวแทนของประชาชน ดังนั้นการที่เคยให้สัญญากับประชาชนไว้ตนเองไม่เคยลืม โดยการเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ถือเป็นความจำเป็นเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งปัญหาของประชาชนต้องได้รับความแก้ไขโดยเร็ว

และบ้านเมืองต้องเดินหน้าต่อไป โดยอยากฝากถึงพรรคประชาธิปปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ว่าอย่าต่อรองเยอะให้มาร่วมมือกันจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ส่วนพรรคอนาคตใหม่ให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้อย่างเต็มที่ โดยตนเองก็พร้อมตรวจสอบพลเอกประยุทธ์ ด้วยเช่นกัน โดยยืนยันจะไม่ให้พรรคพลังประชารัฐสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

ด้านนายระวี กล่าวว่า จากที่ได้ฟังความเห็นของสมาชิกพรรคฯทั่วประเทศ มีความเห็นที่ควรเป็นทั่งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล แต่ความเห็นชอบเข้าร่วมรัฐบาลมากกว่า 90% ด้วยเหตุผลว่าพรรคต้องถือผลประโยชน์ของชาติมากกว่าของพรรคฯ

ซึ่งการเกิดคะแนนเสียงปริ่มน้ำจะส่งผลเสียกับชาติจึงเห็นควรเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐที่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลมากกว่าอีกขั้ว ส่วนอีกข้อคือพรรคพลังประชารัฐเป็นฝ่ายที่แสดงออกถึงความจงรักพรรคดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างชัดเจนมาตลอด

อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็พร้อมจะคัดค้าน และถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันทีหากเกิดการทุจริต หรือการกระทำใดๆที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย

ส่วนนายปรีดา กล่าวว่า พรรคฯได้ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนจาก 56,339 คะแนน ซึ่งตั้งใจทำงานเพื่อชาติและจะเอาการศึกษานำการเมือง โดยมีการเสนอปฏิวัติหลักสูตรการศึกษาในประเทศทั้งหมด เพื่อยกระดับการศึกษา และเหตุที่มาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะมองเห็นว่าบ้านเมืองจะเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่มีการแบ่งฝ่ายตามที่ขั้วการเมืองอีกขั้วพยายามสร้างวาทกรรมแบ่งแยกขึ้นมาโดยตลอด

ขณะที่นายพิเชษฐ กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้มีความสำคัญกับประเทศเป็นอย่างมาก แต่พรรคฯ ก็มีมติสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทางพรรคฯ ไม่อยากให้เกิดความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะจะทำให้นักลงทุนต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ ซึ่งตนเองมองว่าการร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ เพราะได้ผ่านกระบวนการการเลือกตั้งมาแล้ว

นายสมเกียรติ กล่าวว่า จากปัญหาของประเทศที่ได้รับรู้มาตลอดคือการโดนวาทกรรมกำหนดบทบาทให้สังคมแตกแยก ทำให้ตนนั้นอยากจะตัดความขัดแย้งแบ่งแยกออกไปจากสังคมไทย จึงได้ตัดสินใจเดินหน้าเพื่อทลายปัญหาดังกล่าว โดยการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน และจากการเห็นประสิทธิภาพการทำงานของพรรคพลังประชารัฐจึงเห็นควรเข้าร่วมด้วย และเมื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้วเชื่อว่า ม.44 จะหมดไป โดยบ้านเมืองจะกลับสู่สภาวะปกติ ซึ่งเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมากที่สุด

ส่วนพลตรีทรงกลด กล่าวว่า สาเหตุที่เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐเพราะอยากเห็นบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่อยากให้ประชาชนเกิดความขัดแย้งและทะเลาะกันเหมือนเดิม ตนเองต้องการให้บ้านเมืองสงบและประชาชนอยู่ดีกินดี จึงตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยนโยบายของพรรคฯ นั้นต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นจึงจะสานต่อได้

ด้านพลตำรวจเอกยงยุทธ กล่าวต่อว่า การเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะต้องการนำนโยบายพรรคฯ มาสานต่อด้วยการปฏิรูปตำรวจ โดยเชื่อว่าแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะนำโครงการและนโยบายของพรรคไปดำเนินการต่อ จึงเห็นควรเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้

ขณะที่นายคฑาเทพ กล่าวว่า การประกาศจุดยืนครั้งนี้ถือเป็นการปลดล็อคสถานการณ์การเมือง หลังจากมีสถานะไม่ชัดเจนมาตลอดหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้น โดยตนเองหวังจะเห็นเศรษฐกิจของชาติดีขึ้น โดยพรรคพลังประชารัฐถิอเป็นพรรคที่ตอบโจทย์ว่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้เป็นอย่างดี และการที่อาจเกิด ส.ส.เสียงปริ่มน้ำขึ้นนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าจะทำให้ ส.ส.มีวินัยในการทำงานเพื่อบ้านเมืองมากขึ้น

ด้านนายพีระวิทย์ กล่าวว่า การเข้าหารือร่วมกันของ 11 พรรคการเมือง ได้จุดยืนคือเข้าร่วมรัฐบาลสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าจะไม่มีการต่อรองผลประโยชน์ของพรรค แต่จะต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ภายหลังการประกาศจุดยืนของ 11 พรรคการเมือง นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาาธิการพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางเข้ามารับมอบหนังสือฉันทามติของทั้ง 11 พรรคการเมือง

นายอุตตม กล่าวทิ้งท้ายหลังการประกาศจุดยืนของ 11 พรรคการเมืองว่า ต้องขอขอบคุณทุกพรรคที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งขณะนี้ประชาชนยังคงรอคอยให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว การแสดงเจตจำนงค์ในครั้งนี้ถือเป็นการนำพาประเทศให้ออกจากทางตัน

และขอยืนยันว่าทุกพรรคที่มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐถือเป็นหุ้นส่วนกัน และสามารถแนะนำท้วงติงกันได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ขอระบุว่าทางพรรคได้คะแนนเสียงไปแล้วเท่าไร และเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรภูมิใจไทยจะเข้าร่วมกับพรรคฯหรือไม่นั้น ตนเองต้องรอมติการตัดสินใจของ 2 พรรคดังกล่าว

และต้องให้เกียรติในการตัดสินใจด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่าการเข้าร่วมของ 11 พรรค ไม่ได้มีเงื่อนไขเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องโดยเป็นการเข้าร่วมกันเพื่อทำประโยชน์ให้กับประเทศเท่านั้น

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน