กระทรวงยุติธรรมเร่งดำเนินการตามมาตรการขับเคลื่อนด้านการศึกษาวิจัยและการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ของกัญชา โดยเฉพาะเรื่องการแจ้งยื่นการครอบครองกัญชาหรือนิรโทษกรรมกัญชา ที่กำหนดให้ผู้ที่ใช้หรือมีกัญชาอยู่ในครอบครองสามารถมาแจ้งยื่นได้ภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2562
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ ครั้งที่ 2/2562 โดยมี พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สอาดพรรค คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดทำอนุบัญญัติตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 รวมทั้งเพื่อพิจารณาแผนการขับเคลื่อนด้านการศึกษาวิจัยและการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
แนวทางดำเนินการเพื่อการศึกษาวิจัย การจัดหา และการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ แนวทางการส่งเสริมการปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ แผนการขับเคลื่อนด้านกฎหมายและความร่วมมือระหว่างประเทศแนวทางการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และการป้องกันเด็กและเยาวชนนำไปใช้ในทางที่ผิด
และการพิจารณาองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินการเกี่ยวกับกัญชาของประเทศ (National Cannabis Agency) ตามอนุสัญญาว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ โดยที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายเลขานุการรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะจากที่ประชุมไปประกอบการปรับปรุงแก้ไขแนวทางและแผนการปฏิบัติงานดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่ง ว่า ขณะนี้ได้เร่งดำเนินการตามมาตรการขับเคลื่อนด้านการศึกษาวิจัยและการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะเรื่องการแจ้งยื่นการครอบครองกัญชาหรือนิรโทษกรรมกัญชา ที่กำหนดให้ผู้ที่ใช้หรือมีกัญชาอยู่ในครอบครองสามารถมาแจ้งยื่นได้ภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2562
โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานหรือผู้แทนที่เกี่ยวข้องเข้าไปประชาสัมพันธ์ให้ความรู้และพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชน ให้มายื่นจดทะเบียนการครอบครองกัญชา โดยจะมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน อาทิ การสร้างจุดบริการประชาชนแบบ One Stop Service เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปช่วยดูแลในเรื่องการผลิตยาที่สกัดจากกัญชา เพื่อป้องกันการเกิดสารตกค้างหรือสารปนเปื้อนที่จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ รวมทั้งมุ่งเน้นความร่วมมือกับเครือข่ายต่าง ๆ ที่มีความรู้และมีความสนใจในเรื่องการศึกษาวิจัยกัญชา อาทิ มหาวิทยาลัย สหกรณ์การเกษตรหรือกลุ่มชุมชนต่าง ๆ ที่มีความรู้และความสนใจให้เข้ามาร่วมมือกัน
โดยจะจัดให้มีการฝึกอบรมเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ยังมุ่งส่งเสริมให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อผลักดันแนวทางที่จะทำให้พืชทางเลือกสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยได้มากที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: