X

น่าน วาไม้ก็มาบนบานก็มี หลายฝ่ายร่วมแรงร่วมใจสู้ภัยโควิดทุกวิถีทาง

จังหวัดน่าน ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจสู้วิกฤตการณ์ การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ โควิด19 เพื่อรักษา #SaveNan ซึ่งในขณะนี้เฉพาะภาคเหนือตอนบน ยังเหลือพื้นที่เพียงสองจังหวัดคือ น่าน ลำปาง ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ

ข่าววันนี้ น่าน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา หากนับเวลาย้อนหลังไป ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลก ที่ตรวจพบและยืนยันผลว่าพบผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ โควิด19 นอกประเทศจีน โดยเป็นหญิงชาวจีนอายุ 61 ปี มีถิ่นฐานอยู่เมืองอู่ฮั่น และไม่เคยไปตลาดอาหารทะเลหวาหนาน แต่ไปตลาดอื่น

เริ่มมีอาการเจ็บคอ มีไข้ อาการอาการหนาวสะท้าน ปวดหัว ในวันที่ 5 มกราคม เดินทางกับกลุ่มทัวร์มายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อ 8 มกราคม ถูกตรวจพบด้วยกล้องจับความร้อน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในวันเดียวกัน

จากนั้น 4 วันจากการใช้ RT-PCR ผลทดสอบผลเป็นบวก ประเทศไทยจึงประกาศยืนยันผลพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ โควิด-19 นอกประเทศจีนเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2563 โดยนับจากวันที่รับรองยืนยันผลแล้ว จนถึงวันนี้ เป็นวันที่ 82 ที่จังหวัดน่าน ยังคงรักษาพื้นที่ ไม่พบผู้ติดเชื้อ

โดยจังหวัดน่าน ได้ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ช่วยกันป้องกัน และคัดกรองพื้นที่ แต่ก็ทำเอาใจหายใจคว่ำหลายครั้ง เพราะในระหว่างทุกคนที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ก็ยังมีบางพวก ไม่สนจนเกือบจะทำยอด 0 แตก

ย่างการณีร่าสุด ก็เกิดจากผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยต่อต้านและ คอยตำหนิว่า ออกจากหน้าจอมาพบเจอโลกความเป็นจริงบ้าง แต่จากการติดตามเรื่องราวว่าต้นเหตุข่าวลือ ข่าวเท็จ เราไม่เจอเด็กเกรียน แต่สิ่งที่ทำให้เราตกใจคือ อายุของแต่ละคน และหน้าที่การงานของแต่ละคน ปัญหาภัยร้านในโกไซเบอร์ ตอนนี้ไม่ใช่กลุ่มเด็กกลุ่มวัยรุ่นแล้ว มันเลยทำให้เกิดความน่าเชื่อถือของข่าวสูงนี่เอง

สำหรับเมืองน่านวันนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ โดยสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดน่าน เป็นหน่วยงานภาคสังคม ที่เป็นแกนนำหลักจากการวางข้อขัดแย้งทางอุดมการณ์จากสื่อมวลชนกลุ่มต่างๆ กลายเป็นความร่วมมือ ในการสนับสนุนภาคราชการและ ภาคประชาชนที่กลายเป็นจิตอาสา คัดกรองบุคคลเข้าสู่จังหวัดน่านอย่างเข็มข้น จนเห็นปรากฏการต่างๆ ของสังคมที่ออกคิด ออกมาทำสิ่งที่ต้นเองถนัด

อีกด้านหนึ่งสั่งคม ก็ยังคงคติความเชื่อเดิมที่ชาติพันธุ์เผ่าไท เชื่อเรื่องสิ่งเร้นลับทางธรรมชาติ และก็เป็นอีกหนึ่งกุสโลบาย ในการสร้างขวัญกำลังใจจากสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ทำการบนบานสารกล่าวสิ่งเร้นลับให้คุ้มครองเมืองน่านให้ปลอดภัยจากโควิด และมีการเสี่ยงทายเป็นการเสี่ยงทายแบบวัดวาไม้

ซึ่งเป็นพิธีการ และวิธีการตามคติความเชื่อในท้องถิ่นแบบเดิม ควรใช้วิจารนญาณในการรับชม ติชม และการให้ข้อเสนอแนะ เนื่องด้วยเป็นความเชื่อส่วนบุคคน และเป็นความเชื่อที่สืบทอดมาจากอดีต เพื่อคงรักษาไว้

ส่วนทีมข่าว 77ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดน่าน ขอนำเกร็ดความรู้ถึงที่มาที่ไป กับวิธีการเสี่ยงทายดังกล่าว ซึ่งเป็นธรรมดาของมนุษย์ที่มีความรู้สึกนึกคิด กลัวในสิ่งที่มองไม่เห็น อาทิกลางวันกลับกลางคืนมันก็เหมือนกัน เพียงแต่ไม่มีแสงสว่างทำให้มองไม่เห็นก็พากันกลัวทั้งที่ทุกอย่างก็ตั้งอยู่ที่เดิมเหมือนตอนมองเห็น

โดยคติความเชื่อการวาไม้เพื่อเสี่ยงทายนั้นเป็นการสืบเนื่องมาจากการเลี้ยงผี ตามความเชื่อเดิม โดยจะขออธิบายเป็นบทความในคราต่อไป แต่ผลเสี่ยงทายในครั้งนี้ น่านจะรอด ขนาดสิ่งที่ไม่มีตัวตนตามหลักวิทยาศสตร์ยังบอกใช้ชาวน่านสู้เลย

แล้วจะมามัวสิ้นหวังตื่นตระหนกกับข่าวลือข่าวไม่สร้างสรรค์อีกทำไม อย่างน้อยก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าข้อมูลที่เขแจ้งให้ทราบมันไม่เป็นจริง ต่อไปก็อย่าเชื่อ ฟังแล้วก็ถือว่าฟังเสียงนกเสียงกา ไม่ควรนำเอามาเป็นสาระ

77ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดน่าน รายงาน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์

ไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์

ลูกเป็ด เฝ้าน่าน