พิษภัยแล้ง รุดช่วยชาวเรือนแพสะแกกรัง กว่าร้อยครัวเรือน

อุทัยธานี ผลกระทบจากแม่น้ำแห้งขอด ชาวเรือนแพสะแกกรังประสบปัญหา ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งอุทัยธานีรุดนำทีม One Home พม.อุทัยธานีลงพื้นที่ ช่วยเหลือร่วมแบบบูรณาการ

ข่าวภัยแล้ง อุทัยธานี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 09.30 นาย ณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งอุทัยธานี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับมอบหมายจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อุทัยธานี

นำทีมทีม พม.One Home จังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวแพสะแกกรัง ตามที่ นาย จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบหมายนโยบายและภารกิจ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดอุทัยธานี

ได้ลงพื้นที่สำรวจ และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ชุมขุนชาวแพสะเกกรัง ที่จัดเป็นชุมชนเรือนแพที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประสบปัญหาอย่างหนัก เนื่องจากแม่น้ำสะแกกรังแห้งขอด  ส่งผลกระทบให้ขาแพหัก ลูกบวบแตก

ทั้งนี้ได้จัดการรับข้อมูลปัญหาความเดือดร้อน ทั้งผลกระทบในพื้นที่ชุมชนชาวเรือนแพแบบบูรณาการร่วม จัดประชุมวางแผนร่วมกันจำนวน 117 ครอบครัว ตัวแทนกว่า 120 คน จากพื้นที่ตำบสะแกกรัง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี

พบประสบปัญหาด้านที่อยู่อาศัย ขาดงบประมาณในการบุรณะซ่อมแซมบ้านเรือนแพที่อยู่อาศัย ทั้งใช้ชีวิตอยู่ในภาวะลำบาก เนื่องจากประสบปัญหาน้ำในแม่น้ำสะแกกรังแห้งขอด ไม่สามารถดำเนินวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนเรือนแพ แบบเดิมที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการประมงน้ำจืด

โดยการเลี้ยงปลาในกระชัง ซึ่งก็มีทั้ง ปลาสวาย ปลาแรด ปลาเทโพ โดยเฉพาะปลาแรด ที่เลี้ยงในกระชังของที่นี่ ถือว่าขึ้นชื่อเรื่องเนื้อนุ่ม หวาน อร่อยกว่าที่อื่นๆ  นอกจากจะเลี้ยงปลาในกระชังแล้ว ชาวเรือนแพก็ยังจับปลาจากในลำน้ำสะแกกรัง

หรือแหล่งน้ำอื่นๆ มาทำเป็นปลาแห้ง ปลาเค็ม แล้วนำไปขายในตลาด เพื่อเป็นรายได้ให้กับครอบครัว ซึ่งส่วนหนึ่งของรายได้เหล่านั้นก็ต้องนำไปซื้อลูกบวบมาซ่อมแซมแพ เพื่อให้เรือนแพยังคงลอยน้ำอยู่ได้

ในปัจจุบันแม่น้ำสะแกกรัง เกิดภาวะแห้งแล้งหนัก ทำให้การดำรงวิถีชีวิตที่อยู่อาศัยอยู่บนเรือนแพที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูง แต่ไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงปลา หรือจับปลา ได้ดังเดิมทำ จึงทำให้ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงทำให้การดำรงชีวิตความเป็นอยู่ลำบากมากขึ้น

ทั้งนี้ นาย ณรงค์ฤทธิ์ นุปิง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งอุทัยธานี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในด้านการช่วยเหลือ เบื้องต้นได้มอบเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย รายละ 3,000 บาท พร้อมกันนี้ ได้มอบถุงยังชีพชุมชนชาวเรือนแพสะแกกรัง จำนวน 3 ราย

ทั้งได้สำรวจรวบรวมข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคม เพื่อพิจารณาการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือ ตามระบบระเบียบของทางราชการต่อไป พร้อมร่วมวางแผนกับชุมชนชาวเรือนแพสะแกกรัง เพื่อร่วมกันจัดระบบระเบียบชุมชน เพื่อให้ชุมชนสามารถคงวิถีชีวิตวัฒนธรรมชาวเรือนแพแบบเดิม ทั้งมุ่งหวังให้ชุมชนชาวเรือนแพแห่งแม่น้ำสะเกกรัง ที่เป็นชุมชนเรือนแพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ให้มีคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต่อไป

ภาพ/ข่าว ไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์ 77ข่าวเด็ดน่าน