ผวจ.ระนองเดือดเหตุวัยรุ่นไล่ยิงกลางงานประจำปี
ระนอง-นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ในนามผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ต้องขอโทษชาวจังหวัดระนอง ที่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทในงาน “อาบน้ำแร่ แลระนอง” ในปีนี้ไว้ด้วย ซึ่งทางจังหวัดเองก็ได้มีการวางแผนมาอย่างรัดกุมแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นเป็นที่เสียใจต่อผู้บริหารและผู้จัดงาน ส่วนของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมดเร่งติดตามจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลภายในงาน รวมถึงการตรวจค้นก่อนเข้างานกันอย่างเข้มข้นแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยในการเข้าไปเที่ยวในงานประจำปีภายหลังจากนี้ว่าจะไม่มีเหตุกาณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
พลตำรวจตรี สายเพชร ศรีสังข์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง กล่าวว่า สืบเนื่องจากคืนวันที่ 30 เวลาสามทุ่มเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่า มีการทะเลาะวิวาทกันและมีการใช้อาวุธปืน มีผู้ได้รับบัตรเจ็บ 4 คน ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คนได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ขณะนี้ทุกคนอาการปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว หลังจากเกิดเหตุในคืนวันที่ 30มีนาคม ฝ่ายของตำรวจ ปกครอง และฝ่ายทหาร เข้าทำการสืบสวนสอบสวนในที่เกิดเหตุทันทีจนได้ทราบว่า คนร้ายชื่อนายโอม หลังจากก่อเหตุก็ได้หลบหนีไป เป็นคนอยู่ในเขตอำเภอละอุ่น เราก็ได้ติดตามในคืนนั้น จนวันที่ 31 คือเมื่อวานนี้ เราได้สนธิกำลังกับทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ก็สามารถควบคุมตัวนายโอมได้ สอบสวนได้รับสารภาพว่าได้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุจริง คาดว่าน่าจะเป็นปืนลูกซอง ขณะนี้ควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ชื่อ นายกิตติศักดิ์ จุลแสน อายุ 19 ปี ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ขณะนี้เราสามารถควบคุมตัวได้แล้ว เราก็ขอสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องระนอง ขณะนี้เราก็ได้เพิ่มกำลังในการตรวจเข้างานทั้ง 2 จุดสำคัญ และจัดกำลังทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร เดินเท้าภายใน และเพิ่มความเข้ม และมีจุดตรวจรอบนอก เราขอสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนว่า เราจะดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ดีที่สุดครับ ในส่วนของการตั้งข้อกล่าวหา ตอนนี้ขอเจ้าหน้าที่สอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อน ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คงตั้งข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาต รวมถึงพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และอาจรวมไปถึงข้อหาพยายามฆ่าอีกด้วย ส่วนอาการผู้บาดเจ็บในขณะนี้ก็พ้นขีดอันตรายแล้ว
