นร.ระนองตื่นตัวรณรงค์กระตุ้นเยาวชนออกใช้สิทธิเลือกตั้ง 24 มี.ค.

นร.ระนองตื่นตัวรณรงค์กระตุ้นเยาวชนออกใช้สิทธิเลือกตั้ง 24 มี.ค.
ระนอง—นายอริน แซ่ตัน ร่วมกับนายอรรจกร สาคร นักเรียนโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร โรงเรียนประจำจังหวัดระนอง และในฐานะคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์คณะกรรมการสภานักเรียนโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร กล่าวว่า ทางคณะกรรมการสภานักเรียนฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้เรื่องประชาธิปไตย และเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นเยาวชนระดับชั้น ม.6 ของโรงเรียนจำนวนกว่า 400 คน ให้ตระหนักถึงสิทธิ หน้าที่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.2562 นั้น เพื่อให้ทุคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งนักเรียนในระดับชั้นอื่นๆได้มีความรู้ ความเข้าใจ และออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.2562 นี้ให้มากที่สุด เพื่อการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของไทย โดยได้จัดกิจกรรมในช่วงระหว่างหลังการเข้าแถวเคารพธงชาติก่อนเข้าชั้นเรียน มีการอธิบายสร้างความรู้ความเข้าใจ การจัดแผ่นป้ายรณรงค์ และเชิญชวนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
นายอริน กล่าวว่านักเรียนระดับชั้น ม. 6 ถือเป็นผู้ที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ มีสิทธิและหน้าที่ต้องไปเลือกตั้ง ซึ่งนักเรียนหลายคนอาจจะยังไม่ตระหนักในสิทธิดังกล่าว ทางคณะกรรมการนักเรียน จึงได้จัดกิจกรรมขึ้น ไม่เฉพาะแต่ในโรงเรียน แต่จะชักชวนให้นักเรียนที่มีสิทธิเลือกตั้งไปเชิญชวนนักเรียนระดับเดียวกันที่มีสิทธิเลือกตั้งในเพื่อนโรงเรียนอื่นๆ เพื่อให้เยาวชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในจ.ระนองออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งให้มากที่สุด เพื่อจะได้เลือกคนดีที่เป็นตัวแทนชาวระนองเข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฏรต่อไป
นายวิโรจน์ อินตัน ข้าราชการครู ในฐานะที่ปรึกษาประธานคณะกรรมการสภานักเรียนโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร กล่าวว่าตนรู้สึกดีใจและภูมิใจที่เห็นนักเรียนซึ่งเป็นเยาวชนมีความตื่นตัว และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ที่ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 2562 นี้ และจากจุดดังกล่าวนี้ก็จะทำให้สามารถไปกระตุ้นผู้ปกครอง ชุมชน ให้มีความตื่นตัวเพิ่มขึ้นได้ด้วยเช่นกัน
นายเชาวนะ คำกล้า ผู้อำนวยการโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร จ.ระนองกล่าว ว่า ที่ผ่านมาทางโรงเรียนได้ส่งเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเลือกประธานสภานักเรียน ที่จะมีการจำลองรูปแบบทุกขั้นตอนเหมือนกับการเลือกตั้งใหญ่ในระดับชาติ และส่งเสริมมีรู้แพ้รู้ชนะและเคารพกติกาการเลือกตั้ง จึงทำให้ นักเรียนมีจิตสำนึกต่อเรื่องดังกล่าวสูง ซึ่งขอชื่นชน