สสจ.ระนอง เร่งควบคุมโรคอุจจาระร่วงชุมชนชายแดน

สสจ.ระนอง เร่งควบคุมโรคอุจจาระร่วงชุมชนชายแดน
ระนอง—สสจ.ระนอง เร่งสร้างความตระหนักชาวบ้านไทย-เมียนมา ตระหนักในพฤติกรรมอนามามัยด้านสุขาภิบาลและการกำจัดสิ่งปฏิกูลหลังพบโรคอุจจาระร่วงพุ่งสูง
นายแพทย์สาธิต ทิมขำ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง เปิดเผยว่าจากสถานการณ์โรคอุจจาระร่วงของประเทศไทยในปี 2561 มีผู้ป่วยสะสม 1,018,605 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 1558.86 ต่อประชากรแสนคน เสียชีวิต 7 ราย คิดเป็นอัตราการตาย 0.01 ต่อประชากรแสนคน ข้อมูล ณ วันที่ 1 ม.ค.-29 ต.ค.2561 โดยพบว่า จ.ระนองมีผู้ป่วยอุจจาระเฉียบพลัน จำนวนทั้งสิ้น 1,868 ราย คนไทย คิดเป็นอัตราป่วย 987.56 ต่อประชากรแสนคน ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ในชาวต่างชาติ มีผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันจำนวนทั้งสิ้น 118 รายไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต และพบว่าอำเภอที่มีอัตราผู้ป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุดคือ อ.เมือง 1,180 ราย อัตราป่วยเท่ากับ 1,296.23 ต่อประชากรแสนคน อ.ละอุ่น 156 ราย อัตราป่วยเท่ากับ 1,064.64 ต่อประชากรแสนคน อ.สุขสำราญ 119 ราย อัตราป่วยเท่ากับ 859.64 ต่อประชากรแสนคน อ.กระบุรี 102 ราย อัตราป่วยเท่ากับ 212.50 ต่อประชากรแสนคน ตามลำดับ ข้อมูล ณ๖ วันที่ 22 ต.ค. 2561
การดำเนินการควบคุม ป้องกันโรคอุจจาระร่วม จ.ระนอง มีการเฝ้าระวังสถานการณ์และเตรียมความพร้อมการป้องกันทั้งก่อนเกิดโรค ขณะเกิดโรค และหลังการเกิดโรค,การป้องกันโรคมีการดำเนินการควบคุมการระบาดและการสอบสวนโรคที่มีประสิทธิภาพ,การระดมทรัพยากรและความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กร หรือชุมชน เช่นการให้ความรู้ปราชนผ่านทางสถานีวิทยุในพื้นที่ การออกตรวจหาเชื้อโรคอหิวาตกโรคในผู้ประกอบการร้านอาหารในงานประจำปี และเน้นพฤติกรรมอนามัยด้านสุขาภิบาลและการกำจัดสิ่งปฏิกูลต่างๆ,การติดตามประเมินประสิทธิภาพการเฝ้าระวังควบคุมโรค ส่วนปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญในการควบคุมโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน พบว่าประชาชนขาดความตระหนักในพฤติกรรมอนามัยด้านสุขาภิบาล และการกำจัดสิ่งปฏิกูลต่างๆ นอกจากนี้พบว่า จ.ระนองเป็นจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานและอาศัยในพื้นที่ และมีการสร้างเสริมชุมชนย่อยๆ ที่มีผลต่อการแพร่ระบาดของโรค