ผวจ.ระนอง สั่งขันน็อตจุดเสี่ยงพื้นที่ชายแดนหยุดยั้งแรงงานเถื่อนลักลอบเข้าเมืองนำเชื้อไวรัสแพร่ฝั่งไทย

ผวจ.ระนอง สั่งขันน็อตจุดเสี่ยงพื้นที่ชายแดนหยุดยั้งแรงงานเถื่อนลักลอบเข้าเมืองนำเชื้อไวรัสแพร่ฝั่งไทย

ระนอง ผวจ.ระนอง ลงพื้นที่อำเภอกระบุรีสร้างภาวะการรับรู้ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เฝ้าระวังป้องกันการลักลอบเข้าเมืองบริเวณแนวชายแดน พร้อมสั่งกำชับ จนท.ขันน็อตจุดเสี่ยงพื้นที่ชายแดน หยุดยั้งขบวนการนำพาแรงงานผิดกฎหมายเข้าประเทศ สกัดโควิด-19 เมียนมาระบาดเข้าไทย

(1 ก.ย.2563) ที่อาคารอเนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จว.ระนอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ ฉ.ก.ร 25 ลงพื้นที่อำเภอกระบุรี เพื่อสร้างภาวะความรับรู้ให้กับผู้นำชุมชนในการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ New Normal ตามมาตรการป้องกันโรค พร้อมสร้างแนวระวังป้องกันขบวนการค้ามนุษย์ที่อาจนำพาแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่อำเภอกระบุรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดระนอง โดยได้มีการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในท้องถิ่น/ท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชรบ. อสม หัวหน้าส่วนราชการอำเภอกระบุรีกว่า 400 คน เข้าร่วมรับฟัง

ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศเมียนมา รัฐยะไข่ ที่เมืองชิตตเว ทำให้ทางการไทยระงับการเข้ามาของแรงงานต่างด้าวในช่องทางที่ถูกต้อง ทำให้แรงงานชาวเมียนมาที่ต้องการจะกลับเข้ามาทำงานในจังหวัดระนองไม่สามารถเดินทางเข้ามาตามช่องทางปกติหรือด่านผ่านแดนถาวรได้ จึงอาจมีการลักลอบโดยขบวนการค้ามนุษย์นำพาแรงงานเข้ามาในจังหวัดระนองทางช่องทางธรรมชาติ จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงสถานการณ์ของโรคไวรัสโควิด -19

หากพบเห็นมีการนำพาแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองเข้ามาในพื้นที่ก็ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ชี้เบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ชรบ.ประจำหมู่บ้านและชุมชนด้วย รวมทั้งสร้างแนวระวังป้องกันการค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด และหากพบว่ามี ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่มีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ามนุษย์หรือยาเสพติด หรือทางเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง สืบทราบได้ก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด

จังหวัดระนองมีแนวชายแดนทางทะเลและแม่น้ำกระบุรี บางจุดที่อยู่ต้นแม่น้ำนั้น ในช่วงหน้าแล้งสามารถเดินข้ามไปมาหาสู่กันได้ตลอดแนวเป็นระยะทางกว่า 169 กิโลเมตร รวมทั้งหมดมีช่องทางเข้า-ออกทางธรรมชาติ เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 93 ช่องทาง ซึ่งปัจจุบันหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้ร่วมกับตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กองทัพเรือภาค 3 ศรชล

และอีกหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทำการเฝ้าระวังพื้นที่ ที่อาจจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่อำเภอกระบุรี โดยมีการจัดแบ่งกำลังกันเข้ามาดูแล ทั้งกลางวันและกลางคืน มีการลาดตระเวนทั้งทางบก ทางน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงที่คาดว่าจะเป็นจุดลักลอบเข้ามาของขบวนการค้ามนุษย์ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในจังหวัดระนอง