X

สุดตื่นเต้น “นากทะเล” สัตว์ใกล้สูญพันธ์ุโผล่ชายหาดเกาะระนอง

สุดตื่นเต้น “นากทะเล” สัตว์ใกล้สูญพันธ์ุโผล่ชายหาดเกาะระนอง

ระนอง – นายปิยธนา ทองเหลือ ชาวบ้าน จ.ระนอง เจ้าของธุรกิจรายย่อยค้าสินค้าโอท็อป และเจ้าของอู่ซ่อมรถปิยธนาเซอร์วิส เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากเพื่อนว่า มีคนพบเห็นนากทะเลที่เกาะพยาม จ.ระนอง เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และได้โพสต์ภาพดังกล่าว พบว่ากลุ่มเพื่อน ๆ ทั้งในและต่างจังหวัดให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะนากทะเลถือว่าเป็นสัตว์ทะเลหายาก ใกล้สูญพันธ์​ุ​ หลายคนบอกว่านากเป็นสัตว์มงคล หากพบเห็นที่ใด สถานที่แห่งนั้นจะเจริญรุ่งเรือง

แสดงว่าเป็นที่อุดมสมบูรณ์และจะเกิดสิ่งดี ๆเกิดขึ้น ตามความเชื่อของคนโบราณ จึงพยายามตรวจสอบข่าว จนทราบว่า ต้นตอของข่าวมาจากเจ้าของ ‘ทรายทองรีสอร์ท’ บนเกาะพยาม ที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า Jutharat  Ladkeaw  เป็นเจ้าของภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว เป็นผู้ที่พบเห็นนากทะเลด้วยตัวเอง บริเวณชายหาดหน้ารีสอร์ท จึงแอบดูและนำกล้องมาถ่ายภาพเก็บไว้ได้ ซึ่งถือว่าภาพดังกล่าวสร้างความยินดี และมีการแชร์ภาพดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก

โดยเฉพาะคนระนองที่รักธรรมชาติ ถือว่าข่าวนี้คือสิ่งที่มีความสุขที่สุด และอยากจะเห็นเป็นอย่างมากเนื่องจากที่ผ่านมา เกาะพยาม จ.ระนอง ถือเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูงมาก จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว จึงเริ่มเกิดธุรกิจการท่องเที่ยวขึ้น จนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเกาะพยามได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว รีสอร์ทจำนวนมากเกิดขึ้น สาธารณูปโภคต่าง ๆ ถูกก่อสร้างขึ้นบนเกาะ ในขณะที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก็นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวเกาะจำนวนมาก

จนหลายคนหวั่นเกรงว่า ธรรมชาติที่เคยอุดมสมบูรณ์ ทั้งบนเกาะและในทะเลรอบ ๆ เกาะ จะเสียหายไป แต่เมื่อชาวบ้านพบว่ามีฝูงนากทะเลอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่เกาะสงบ เพราะวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้ต้องปิดเกาะ ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปพลุกพล่าน ทำให้นากทะเลซึ่งอาศัยในในมหาสมุทรแปซิฟิก หวนกลับมายังเกาะพยาม แสดงให้เห็นว่าเกาะพยามยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ จะเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวได้ อีกทั้งจะเป็นสิ่งเตือนใจให้ทั้งชาวบ้านบนเกาะ ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาหันมารักษาและให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ให้มากขึ้น

Jutharat  Ladkeaw   เจ้าของรีสอร์ท บนเกาะพยาม และเจ้าของภาพที่ถ่ายได้ ให้ข้อมูลสั้นๆ ว่า สุดดีใจและตื่นเต้นกับสิ่งที่พบเห็น “ไม่เคยสบายใจและฟินอะไรแบบนี้มาก่อน เช้า ๆ เงียบ สงบ หาดที่ไม่มีฝรั่งมาอาบแดด แต่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแฟมิลี่ กลุ่มใหม่มาอาบแดดแทน”

อนึ่ง นากทะเล (อังกฤษ: Sea otters; ชื่อวิทยาศาสตร์: Enhydra lutris) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล ประเภทหนึ่งโดยอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก ในวัยเจริญพันธุ์จะมีน้ำหนักประมาณ 14–45 กิโลกรัม (31–99 ปอนด์) นากทะเลเป็นสัตว์ในวงศ์พังพอน (Mustelidae) ชนิดหนึ่ง และเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเลที่มีขนาดเล็กที่สุดอีกด้วย นากทะเลนั้นไม่เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเลทั่วไปเพราะมีฉนวนกันความร้อนด้วยขนที่หนาแน่น จึงทำให้นากทะเลสามารถหาอาหารในทะเลเป็นเวลานาน ๆ ได้

นากทะเลจะอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง โดยจะดำดิ่งสู่พื้นทะเลเพื่อหาอาหาร อาหารที่ชอบ คือ สาหร่ายทะเล (ถ้าเป็นสาหร่ายเคลท์จะชอบมาก) เม่นทะเล หอยต่าง ๆ กุ้งบางชนิด และปลาบางชนิด นอกจากนี้นากทะเลยังเป็นสัตว์ที่สามารถวัดความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ได้อีกด้วย ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าพฤติกรรมการกินอาหารของนากทะเล  ที่ใช้หินทุบเปลือกหอยบนหน้าอกตัวเองนั้นเป็นพฤติกรรมที่มีมานานเป็นระยะเวลานับหลายล้านปี ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยถือว่าเป็นพฤติกรรมการกินอาหารที่พัฒนาขึ้นมาจากการกินหรือหาอาหารทั่วไปของสัตว์โลก และเป็นสัตว์ทะเลชนิดแรกที่มีพัฒนาการเช่นนี้ โดยการสังเกตพฤติกรรม แม้แต่ลูกนากทะเลกำพร้าในสถานที่เลี้ยงก็ยังพบว่ามีพฤติกรรมเช่นนี้

ในอดีตจำนวนนากทะเลอยูที่ประมาณ 1,000–2,000 ตัวเท่านั้น เพราะถูกล่าอย่างหนักในปี ค.ศ.1741–1911[3] ต่อมามีสนธิสัญญาระหว่างประเทศในการห้ามล่า และให้อนุรักษ์นากทะเล จึงส่งผลให้จำนวนนากทะเลเพิ่มขึ้นเป็น 150,000–300,000 ตัว นับเป็นความสำเร็จในการอนุรักษ์นากทะเล แต่ปัจจุบันจำนวนนากทะเลได้ลดลงอีกครั้ง นากทะเลจึงเป็นเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเลที่ใกล้สูญพัน

ขอบคุณข้อมูลภาพจากเฟซบุ๊ก : Jutharat  Ladkeaw

 

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

บุญเลื่อน พรหมประทานกุล

บุญเลื่อน พรหมประทานกุล

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดระนอง บรรณาธิการ นสพ.เซ้าท์เทิร์นนิวส์ระนอง