ระนอง เตรียมชงขอมติ ครม.หาทางออกใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตป่าชายเลน
ระนอง-ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตป่าชายเลน บริเวณพื้นที่ชุมชนเมืองระนองซึ่งจากสภาพปัจจุบัน พื้นที่ดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถนำมาฟื้นฟูให้กลับคืนเป็นป่าชายเลนได้แล้วนั้น ทางจังหวัดระนองจึงได้เสนอเรื่อง ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
(18 ธ.ค.62) นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานการประชุมหารือติดตามความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตป่าชายเลน ชุมชนเมืองระนอง โดยมีผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นที่รับผิดชอบพื้นที่ชุมชนเมืองระนอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ ณ ห้องประชุมรักษะวาริน ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดระนอง
จากกรณี ความเดือดร้อนของประชาชนที่อาศัยและทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าชายเลนที่หมดอายุการอนุญาต บริเวณ ท้องที่ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เนื้อที่ 484 ไร่ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยถาวรของประชาชน และเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านค้า แพปลา โรงงาน สถานที่ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกับการประมง สถานที่ราชการ สถานที่ศาสนกิจ และมีสาธารณูปโภคครบครัน รวมทั้งเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดระนอง ซึ่งจากสภาพปัจจุบัน พื้นที่ดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถนำมาฟื้นฟูให้กลับคืนเป็นป่าชายเลนได้แล้วนั้น ทางจังหวัดระนองจึงได้เสนอเรื่อง ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเพื่อจัดระเบียบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ซึ่งจากการติดตามความคืบหน้าการดำเนินการ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีการประชุมหารือร่วมกับอธิบดีกรมธนารักษ์ เพื่อแก้ไชปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าชายเลน ชุมชนเมืองระนอง เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2562 และวันที่ 6 ธันวาคม 2562 ซึ่งที่ประชุมมีมติให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติ โดยต้องระบุเหตุผลและวัตถุประสงค์ในการเพิกถอนให้ชัดเจนว่า “เพื่อส่งมอบให้กรมธนารักษ์นำไปดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่ชุมชนเมืองระนองตามกฎหมายต่อไป” พร้อมนำเสนออนุกรรมการจัดหาที่ดินเพื่อรับทราบ และเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจังหวัดระนอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการสำรวจตรวจสอบข้อมูลการใช้ประโยชน์และถือครองที่ดินในพื้นที่ ให้เป็นปัจจุบัน เพื่อนำมาพิจารณาหาแนวทางแก้ปัญหา และให้สร้างการรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ และกำหนดมาตรการป้องกันการบุกรุกขยายตัวของชุมชนเพิ่มเติม ให้ติดตาม ตรวจสอบ พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ทำการบุกรุก
