ไฟป่าโหมไหม้เร่งควบคุม หวั่นล่ามสวนทุเรียนหลง-หลินลับแลกำลังติดดอกและผลอ่อน เกรงซ้ำรอยไฟป่าครั้งใหญ่ปี 2559
เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เข้าควบคุมไฟป่าที่ห้วยพญาใจตอนบน หมู่ 6 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ โดยนายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอลับแล ลงพื้นที่สั่งการทำแนวกันไฟ หวั่นล่ามสวนทุเรียนหลง-หลินลับแลกำลังติดดอกและผลอ่อน ซ้ำรอยเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ปี 2559
นายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอลับแล จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยนายสุทัศน์ กาวิชัย หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ตรอน ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งชุดปฏิบัติงานดับไฟป่าของกรมป่าไม้ กำลังทหาร กำลังพล อส. ผู้นำชุมชนและชาวสวนลับแล พร้อมสั่งการนำอุปกรณ์เข้าช่วยกันดับไฟ หลังรับแจ้งเกิดไฟป่ากำลังโหมไหม้ที่บริเวณห้วยพญาใจตอนบน หมู่ 6 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล เพื่อป้องกันไม่ลุกลามบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงและสวนผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนหลง-หลินลับแล และพันธุ์หมอนทอง ที่กำลังติดดอกและติดผลอ่อน หวั่นซ้ำรอยไฟป่าครั้งใหญ่เมื่อปี 2559 
ทั้งนี้ไฟป่าโหมไหม้ เนื่องจากมีเศษใบไม้และวัชพืชที่แห้ง จากภาวะภัยแล้ง รวมไปถึงกระแสลมคอนข้างแรง ทำให้เปลวไฟพุ่งสูง เสียงดังทั่วป่า ด้วยความชำนาญของเจ้าหน้าที่และการวางแผนอย่างรัดกุมในการเข้าควบคุมและสกัดไฟป่าไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง พร้อมทั้งมีการทำแนวกันไฟ เพื่อกันไฟไม่ให้ลุกลามไปยังสวนผลไม้ ซึ่งมีทั้งทุเรียน มะขาม ลำไย และมะยงชิด พืชเศรษฐกิจสำคัญของอำเภอลับแล ทั้งนี้ล่าสุดสามารถควบคุมเพลิงได้ทั้งหมด
นายปรัชญา กล่าวว่าเริ่มต้นปี 2565 รับแจ้งเกิดไฟป่าแล้ว 4 ครั้ง สาเหตุหลักชาวบ้านเผาเพื่อหาของป่าและกำจัดวัชพืช ด้วยภาวะแห้งแล้ง ไฟจึงลุกลามได้ง่าย กำชับเจ้าหน้าที่คุมเข้ม และรณรงค์ขอความร่วมมืออย่าเผาป่าลับแล ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนทั้งหลง-หลินและหมอนทองลับแลมากที่สุดภาคเหนือ กว่า 2 หมื่นไร่สร้างรายได้ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังติดดอกและผลอ่อน ดังนั้นอยากให้จำบทเรียนไฟป่าครั้งใหญ่ปี 2559 สร้างความเสียหายให้ชาวสวนลับแลมาแล้ว ต้องใช้เวลานานกว่า 8 ปีฟื้นฟูและปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิต ดังนั้นปีนี้ เน้นเฝ้าระวังและระดมกำลังในการทำแนวกันไฟ ห้ามเผาป่า หากจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด
