รอง ผบช.ภาค 6 ตรวจเยี่ยมจุดตรวจ ย้ำ “ลดอุบัติเหตุ ป้องกันโควิด-19”

ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ บูรณาการ สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร ปรับด่าน หรือ จุดตรวจให้คุมเข้มทั้งการลดอุบัติเหตุและป้องกันโควิด-19 ไปด้วย หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ของ   จ.อุตรดิตถ์เชื่อมโยงสถานบันเทิง จ.เชียงใหม่ และ กรุงเทพฯ ซึ่งเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือบ้านเกิดช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว 10 รายวันที่ 13 เมษายน 2564 ที่หน่วยบริการประชาชนเขาแก้ว ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ตั้งอยู่บนถนนสายเมืองอุตรดิตถ์ – เขื่อนสิริกิติ์ เป็นหนึ่งในจุดตรวจป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.ภาค 6 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจดังกล่าว เพื่อติดตามและให้กำลังใจ จนท.ตำรวจ นำโดย โดย พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ,ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น, อสม.และอปพร.ในการปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจ จุดบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือช่วง 7 วันอันตรายทั้งนี้ ช่วง 7 วันอันตราย จนท.ประจำจุดตรวจต่างคุมเข้ม เน้นให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัย เมาไม่ขับ ปฏิบัติตามกฎหมายจารจร และต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการระบาดโควิด-19 โดยพบว่าประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ ไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และพบผู้ขับขี่รถยนต์ 1 รายเมาแล้วขับ ตรวจวัดแอลกอฮอล์สูงถึง 244  มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามกฎหมายได้ระบุปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไว้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ พ.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.ภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.นนทวร สีอินทร์ .ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ยังได้มอบน้ำดื่ม ขนมปัง และ หน้ากากอนามัย ให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้รถถนน พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมายจารจร และ ป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019พล.ต.ต.ไตรรงค์ กล่าวว่า ด้วยนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติเอาใส่ใจ เรื่องความปลอดภัยเรื่องการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยร่วมกันทำงานลดอุบัติเหตุทางถนน และเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะการตั้งจุดหรือด่านตรวจ เน้นเรื่องความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ต้องไม่มีการทุจริต ทุกจุดให้เน้นอุปกรณ์การบันทึกภาพ บันทึกข้อมูล การมีกล้องวงจรปิด ที่ใช้การได้ ควบคู่การป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคต่อเนื่อง  กำชับให้บูรณาการหน่วยงานอื่น เช่น สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19