ที่ห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรเมืองลับแล จำกัด จ.อุตรดิตถ์ กลุ่มเกษตรกรต้นแบบที่ทำเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย (GAP) จาก 9 อำเภอของ จ.อุตรดิตถ์ ทั้งข้าว พืชผัก ผลไม้ และ ด้านปศุสัตว์ ต่างพร้อมใจนำผลผลิต ทั้งสดและแปรรูป จัดบูธ เพื่อแสดงถึงความสำเร็จ ข้อดี ของการตัดสินใจทำเกษตรอินทรีย์ และเกษตรปลอดภัย ซึ่งไม่เพียงจะสร้างมูลค่า ช่องทางการตลาด และรายได้ให้เกษตรกรเท่านั้น ยังทำให้สุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภคดีขึ้นด้วย ขณะที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 3100 ไร่ ในปี 2564 โดยมีเกษตรกรต้นแบบแล้ว 219 รายพร้อมเป็นศูนย์เรียนรู้ ขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์จังหวัดอุตรดิตถ์
นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์ ประธานในพิธี พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้ประกอบการ ร้านค้า ภาคเอกชน และเกษตรกร ต่างให้ความสนใจสอบถามความอยากง่าย ปัญหาอุปสรรค และความสำเร็จของการทำเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยจากเกษตรกรต้นแบบ
นายสมชาย จงบัญญัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ. ศ. 2561 – 2564 ได้กำหนดเป้าหมายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 600,000 ไร่ ในปี 2564 ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ตกลงร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ในการขับเคลื่อนให้ไปเป็นตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์ จังหวัดอุตรดิตถ์มีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่การทำเกษตรอินทรีย์ไม่น้อยกว่า 3,100 ไร่ ในปี 2564
ซึ่งปัจจุบันจังหวัดอุตรดิตถ์มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์และเกษตรจีเอพีรวมพื้นที่ทั้งหมด 64,598 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์ จำนวน 2,190 ไร่ ข้าวอินทรีย์ 2,079 ไร่ พืชอินทรีย์ 17 ชนิด พื้นที่รวม 111 ไร่ มีเกษตรต้นแบบที่ทำเกษตรอินทรีย์ 219 ราย และพื้นที่เกษตร GAP จำนวน 62,471 ไร่ ประกอบด้วย ข้าว 47,645 ไร่ พืช 37 ชนิด รวมพื้นที่ 10, 4729 ไร่ ปศุสัตว์ 4 ชนิดใน 187 ฟาร์ม และประมง 1 ชนิด คือ ปลานิลพื้นที่เพาะเลี้ยง 33 ไร่
เพื่อพัฒนาผลผลิตเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัยให้มีคุณภาพ มาตรฐาน ต่อเนื่อง สนง.เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ จึงบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานสังกัด รวมไปถึง สสจ.อุตรดิตถ์ ,นักวิชาการจาก ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ หอการค้าจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นที่ปรึกษาเกษตรกร จึงได้จัดทำข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาเกษตรอินทรีย์จังหวัดอุตรดิตถ์ ระหว่าง จังหวัดอุตรดิตถ์ สถาบันเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้สหกรณ์การเกษตรเมืองลับแล จำกัด ยังจัดทำบันทึกข้อตกลงซื้อขายข้าวอินทรีย์ กับกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ ในฤดูกาลผลิตปี 2561 นี้ด้วย นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์ ได้มอบป้ายให้ ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหารใจจังหวัดอุตรดิตถ์ รับซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์และเกษตรปลอดภัย จากเกษตรกรในจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้เป็น “ร้านอาหารวัตถุปลอดภัยเลือกใช้สินค้า Q” แสดงถึงการพัฒนาและส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ของจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ อีกทั้งเป็นการเชื่อมโยงด้านการตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์สู่ผู้บริโภค สนับสนุนการขยายพื้นที่เกษตรกรรมตามแนวทางเกษตรอินทรีย์
