เจ้าของบ้านริมน้ำร้องสื่อกรมเจ้าท่าทำ 2 มาตรฐานหลังถูกกล่าวหาสร้างศาลาล้ำไปในที่เพื่อนบ้าน ขณะที่ตนเองยันมีเอกสารถูกต้อง
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 65 ม.2 (บ้านสวนริมน้ำปัญญาพร) ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากนายสุวิทย์ ตาดต่าย อายุ 54 ปีเจ้าของบ้านว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าสาขานนทบุรี โดยก่อนหน้านี้ได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบศาลาริมน้ำที่บ้านของตนและบอกว่าศาลาดังกล่าวสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ ซึ่งตนได้นำเอกสารโฉนดที่ดินแสดงกรรมสิทธิ์ซึ่งอยู่ในที่ดินของตนแต่ถูกน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นคลอง
แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าผิดให้ตนทำหนังสือยินยอมว่าได้รุกล้ำลำน้ำสาธารณะจริงโดยจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมปีละ 500 บาท ซึ่งตนก็ยินยอมทำตาม กระทั่งมีเจ้าของที่ดินซึ่งอยู่ติดกับที่ของตนเข้ามาซื้อที่ดินและได้มีการถมที่จนแล้วเสร็จต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่จากกรมเจ้าท่ามาแจ้งกับตนว่าศาลาของตนรุกล้ำที่ของเจ้าของที่ดินข้างเคียงซึ่งตนก็ได้โต้แย้งไปว่าจะล้ำที่ดินของเขาได้อย่างไรในเมื่อที่ตรงนั้นมันกลายเป็นคลองไปแล้วเหมือนกับที่ดินของตนที่ถูกน้ำกัดเซาะไปและทางเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าก็ได้แจ้งกับตนว่าศาลาของตนรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ แต่กลับมาบอกอีกทีว่าตนสร้างล้ำที่ของคนอื่นซึ่งตนก็ได้สอบถามว่าถ้าที่ดังกล่าวอยู่ในคลองและเป็นที่ดินของคนอื่นตนก็พร้อมจะรื้อศาลาดังกล่าวแต่ขอให้ทางกรมเจ้าท่านนทบุรีทำหนังสือออกมาให้กับตนด้วย เพราะถ้าหากเจ้าของที่ดินที่ติดกับตนทำการถมที่ในคลองได้ถ้าอย่างนั้นที่ของตนซึ่งอยู่ในคลองก็ต้องทำได้เหมือนกัน
แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงจากกรมเจ้าท่านนทบุรีมาโดยตลอดซึ่งตนมองว่าเป็นการเลือกปฎิบัติสองมาตรฐานและถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่ตนจึงทำหนังสือร้องเรียนไปที่กรมเจ้าท่านนทบุรีแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใดจึงตัดสินใจร้องสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรม
โดยในวันนี้นายสุวิทย์ ดอกคำ เจ้าหน้าที่ชำนาญการพิเศษกรมเจ้าท่าได้เดินทางมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวพร้อมทั้งเก็บข้อมูลเรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้นและจะเสนอให้กับทางอธิบดีกรมเจ้าท่าภายใน 30 วัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งยืนยันจะให้ความเป็นธรรมและจะแจ้งให้ผู้ร้องทราบความคืบหน้าต่อไป
