X

อดีตทหารยศสิบเอกพิการขาตามองไม่เห็น พักอาศัยอยู่กับภรรยารายได้วันไม่ถึงร้อย วอนหน่วยงานรัฐเข้าช่วยเหลือ

วอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลืออดีตทหารยศสิบเอก ปัจจุบันพิการขาตาฝ้าฟางมองไม่เห็น พักอาศัยอยู่ในห้องเช่ากับภรรยา ที่ต้องหาเลี้ยงมีรายได้วันไม่ถึงร้อย 

วันที่ 21 ธ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ภายในซอยต้นสนซึ่งอยู่ด้านหลังวัดชลประทานรังสฤษดิ์ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากมีข้อมูลจากนายสุริยา ศักดิ์ดารัตน์ เป็นอาสาสมัครของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ว่ามีตาย-ยา คู่หนึ่งพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าโดยคุณตาพิการขาขวาด้วน ตาทั้ง 2 ข้างฝ้าฟางมองไม่เห็น ส่วนคุณยายมีอาชีพรับจ้างล้างจานรายได้เพียงเล็กน้อย อยู่กินกันอย่างยากลำบากจึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบหาข้อเท็จเรื่องดังกล่าว

เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าเป็นห้องเช่าเล็กๆพบนายเทพ ชูก้าน อายุ 86 ปีนอนอยู่ภายในห้องสภาพร่างกายขาขวาตั้งแต่ใต้หัวเข่าลงไปขาดด้วน ตาซ้ายมองไม่เห็นส่วนตาขวาฝ้าฝางแถบเกือบจะมองไม่เห็นแล้วเช่นกัน จึงได้ทำการพูดคุยกับคุณตาเทพ ฯ เปิดเผยว่าอดีตเคยเป็นทหารยศสิบเอกและหลังจากออกจากราชการมาได้ไปเกิดอุบัติเหตุขับรถ จยย.ชนกับรถยนต์กระบะเป็นเหตุให้ขาขวาหักหลายท่อนและรักษาตัวอยู่ระยะหนึ่งทางแพทย์มีความเห็นต้องทำการตัดขาขวาในส่วนที่หักทิ้ง หลังจากนั้นก็ไม่สามามรถใช้ชีวิตเหมือนปกติได้อีก กระทั้งปัจจุบันตาทั้ง 2 ข้างก็เริ่มมองไม่เห็นแล้ว ส่วนบุตรและญาติพี่-น้องไม่เคยติดต่อกันมานานหลายสิบปี  โดยปัจจุบันอยู่ห้องเช่าห้องนี้กับนางอุษา (ภรรยา)มานานกว่า 5 ปียายยึดอาชีพรับจ้างล้างจานให้กับร้านขายอาหารตามสั่งโดยมีรายได้วันละประมาณ 50-100 บาทซึ่งอาหารแต่ละวันจะได้รับความอนุเคราะห์จากร้านอาหารที่ทำงานด้วยกลับมาให้กิน ส่วนตนทั้ง 2 ไม่เคยไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐแต่อย่างใดเนื่องจากไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและเอกสารอะไรที่ระบุว่าเป็นตัวตนแม้แต่อย่างเดียว จนล่าสุดวันนี้มีนายแดง ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น

นางอุษา สิงห์แก้ว อายุ 81 ปีภรรยากล่าวว่าตนเองอยู่กัน 2 คนตาย-ยายที่ห้องเช่านี้มานานกว่า 5 ปีแล้วโดยจะยึดอาชีพรับจ้างล้างจานให้กับร้านขายอาหารตามสั่งใกล้ที่พักรายได้ก็ 50-100 บาทซึ่งรายได้แต่ละวันจะแบ่งครั้งละ 20-50 บาทไปจ่ายค่าห้องเช่าซึ่งเช่าอยู่เดือนละ 1,500 บาทแต่ด้วยไม่มีกำลังที่จะจ่ายเป็นรายเดือนจึงจำเป็นต้องแบ่งจ่ายเป็นรายวันและปัจจุบันยังคงมียอดค้างอยู่ประมาณ 3,000 บาทด้วย ส่วนสุขภาพร่างกายมีอาการเจ็บปวดที่หัวเข่าจะต้องกินยาแก้ปวดและแก้อักเสบทุกวันถ้าวันไหนไปกินไม่สามารถจะเดินและออกไปทำงานได้เลย

นายสุริยา ฯหรือแดง เป็นอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งประจำจุด สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่าตนเองมักจะพบเห็นคุณยาย อยู่บ่อยครั้งเนื่องจากตนเองมีที่พักอาศัยและกิจการร้านแก๊สในระแวกใกล้กันแต่ต้องบอกก่อนว่าตนเองไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณยายนั้นอยู่กับคุณตา เนื่องจากเป็นการพบเห็นคุณยายแบบผิวเผินด้วยความสงสารแต่ละครั้งจะพูดคุยล้อเล่นหยอกล้อกันเป็นประจำและจะให้เงินครั้งหนึ่งประมาณ 100 บาทซึ่งต้องบอกว่าคุณยายไม่เคยร้องขอแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมาได้เจอคุณยายและคุณยายได้เอ้ยปากขอแพ็มเพิส ตนเองยังพูดหยอกล้อกลับไปว่ายายแข็งแรงขนาดนี้จะเอาแพ็มเพิสไปทำไม แต่คุณยายตอบกลับมาว่าเอาไปให้คุณตาซึ่งตนเองเริ่มสงสัยขึ้นมาทันทีเนื่องจากรู้จักและช่วยเหลือคุณยายมาเข้า 3 ปีนี้ตัวคุณยายไม่เคยพูดถึงคุณตาแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยความสงสัยตนเองจึงสอบถาม จยย.รับจ้างในระแวกดังกล่าวพร้อมกับให้พาไปยังบ้านคุณยายถึงได้พบเจอคุณตาสภาพพิการขาขวาตามองไม่เห็นนอนอยู่ภายในห้องเช่าเล็กๆมืดๆและมีกับข้าวเพียง 1 อย่างเป็นปลาเค็มที่ใกล้จะหมดวางอยู่ จึงได้มีการพูดคุยกับ 2 ตา-ยายและเป็นจุดเริ่มต้นที่ตนเองจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ 2 ตา-ยาย นี้ให้มีสิทธิ์ได้รับเงินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเบี้ยยังชีพคนพิการและเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามหลักเกณฑ์ของรัฐ ส่วนในเบื้องต้นใครที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือคุณตาคุณยาย 2 ท่านนี้ก็สามารถช่วยเหลือเข้ามาได้คนละเล็กละน้อยที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี แจ้งวัฒนะ 2 (แยกปากเกร็ด) เลขบัญชี 050-1-39531-5 นายสุริยา ศักดิ์ดารัตน์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน