เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกรวบยกครัว 4 ผู้ต้องหาเปิดร้านนวดบังหน้า ลอบชำแหละรถเถื่อนสวมทะเบียน
วันที่ 5 พ.ค.66 เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ นำกำลังเข้าตรวจค้นยังร้านนวดเพื่อสุขภาพ นวพร เลขที่ 1/4 หมู่ 2 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามหมายค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ ค.437/2566 ลงวันที่ 3 พ.ค.66 หลังจากขยายผลการจับกุมตัวนายภีรพัฒน์ หรือ อุ้ม บุญมีอายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 7 หมาย ที่ก่อเหตุแอบอ้างสร้างโปรไฟล์เป็นเซเลบเก๊ แฝงตัวเข้าไปในแอปพลิเคชั่นหาคู่ ก่อนจะหลอกนัดหญิงสาวไปหลับนอนด้วยและฉวยโอกาสขโมยรถยนต์ของหญิงสาวผู้เสียหายหลบหนีไป ก่อนที่นายภีรพัฒน์จะนำรถยนต์ที่ขโมยมาขายต่อให้กับ มาม่าซังร้านนวดรายหนึ่งในย่านอำเภอบางบัวทอง ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลจึงพบว่า มาม่าซังรายนี้คือ นางสมนึก ขุนทอง อายุ 65 ปี และยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย คือ น.ส.กนกวรรณ ขุนทอง อายุ 41 ปี ลูกสาวนางสมนึก และ น.ส.นฤมล สังขนัครา หลานสาวนางสมนึก และนายรุ้ง ศรีบุญเพ็ง อายุ 47 ปี ลูกเขยนางสมนึก จึงได้นำกำลังพร้อมหมายจับเข้าทำการจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ในข้อหาร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร พร้อมรถยนต์ของกลางจำนวน 10 รายการที่ตรวจยึดได้จากหลังร้านนวดดังกล่าวจำนวน 5 คัน ส่วนอีก 5 คัน ตรวจยึดได้จากอู่ซ่อมรถยนต์ย่านตำบลลำโพ
ทั้งนี้จากการตรวจค้นภายในร้านนวดแห่งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายค้นและหมายจับให้กับ นางสมนึก ขุนทองอายุ 65 ปี แสดงซึ่งตัวเป็นเจ้าของร้าน ก่อนนำตัวนางสมนึกเข้าตรวจค้นด้านหลังร้านนวด พบรถยนต์จำนวน 5 คัน คือ1.รถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำ 2.รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน กจ.9257 เลย 3,รถยนต์นิสสัน อเมร่า สีขาว ทะเบียน6กฆ1135 กทม. 4.รถยนต์โตโยต้า ยาริส สีเทา ทะเบียน 2ขอ3198 กทม. และ 5.รถยนต์โตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงินทะเบียน กพ4693 ภูเก็ต จึงได้ทำการอายัดรถยนต์ของกลางทั้งหมดเพื่อสืบหาที่มาต่อไป โดยในขณะตรวจค้นน.ส.มีน (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของรถฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ ทะเบียน กจ9257 เลย ซึ่งเป็นทะเบียนที่ถูกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ได้เดินทางมาตรวจสอบรถยนต์ของตนด้วยความดีใจที่ได้รับรถยนต์ที่ถูกขโมยไปกลับคืนมา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นจุดที่สองซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถภายในซอยลำโพ หมู 6 ต ลำโพ อ.บางบัวทองจ.นนทบุรี พบนายรุ้ง ศรีบุญเพ็ง อายุ 47 ปี แสดงตัวเป็นสามีเจ้าของอู่ โดยตรวจพบรถยนต์ของกลางจำนวน 5 คัน ในเบื้องต้นนายรุ้งให้การภาคเสธว่า รับซื้อรถหลุดจำนำจากทางโซเซียลมาสวมป้ายทะเบียนเพื่อขายต่อ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อในคำให้การจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายพร้อมกันแจ้งข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กล่าวว่า จากการสืบสวนแผนประทุษกรรมของกลุ่มผู้ต้องหานั้น พบว่าได้เปิดกิจการร้านนวดบังหน้า และจะใช้พื้นที่ด้านหลังร้านเป็นสถานที่ซุกซ่อนรถที่ไปรับซื้อจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือรถที่หลุดจำนำ ก่อนจะนำมาชำแหละแยกอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ขาย โดยภายในอู่ที่เข้าตรวจค้นพบว่ามีเครื่องไม้เครื่องมือในการแยกชิ้นส่วนรถยนต์แบบครบวงจร จากนั้นผู้ต้องหาก็จะนำชิ้นส่วนรถที่ได้มาจากการชำแหละไปขายทอดตลาดหรือที่เรียกว่าการย่อยสลาย โดยใช้ระยะเวลาทั้งกระบวนการไม่เกิน 2 วัน ซึ่งข้อมูลจากการสืบสวนทำให้ทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้จะรับรถเข้ามาโดยเฉลี่ยสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 5 คัน ทีมสืบสวนสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับเครือข่ายกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ในข้อหาร่วมกันรับของโจรอันเป็นการค้ากำไร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
