ตำรวจรวบอดีตสมาชิกแก๊งหมูบินตระเวนลักทรัพย์ตามบ้านคืนเดียว 4 หลังรวดยึดของกว่า 170 รายการ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 พ.ค.2564 พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รองผกก.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.บางบัวทอง ร่วมกันจับกุมตัว นายสัญญา อ่ำกรุด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 999 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 224/2564 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป ” พร้อมของกลางกว่า 170 รายการ อาทิพระพุทธรูป พระเครื่อง นาฬิกา เครื่องประดับ ธนบัตรเก่าใหม่ สุรา บุหรี่ โดยมีผู้เสียหายกว่า 10 รายทยอยเดินทางเข้ามาดูทรัพย์สินของกลางและชี้ตัวผู้ต้องหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสัญญาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หมู่บ้านศรีประจักษ์จำนวน 2 หลัง หมู่บ้านบัวทอง4 จำนวน 4 หลัง หมู่บ้านร่มเงาไม้ จำนวน 3 หลัง หมู่บ้านบัวทอง จำนวน 1 หลัง หมู่บ้านบ้านบัวทอง จำนวน 1 หลัง ซึ่งอยู่ในพื้นที่สภ.บางบัวทอง
จากการสอบสวนนายสัญญาให้การรับสารภาพว่าเป็น 1 ในแก๊งคนร้ายที่ก่อเหตุจริง โดยทำมาแล้วนานกว่า 6 เดือน โดยตนทำหน้าที่คอยตัดแม่กุญแจบ้านเข้าไปก่อเหตุหลังได้ทรัพย์สินมาจะนำไปขายที่ตลาดนัดแห่งหนึ่งในกทม. ก่อนจะนำเงินที่ได้มาแบ่งกัน เงินที่ได้ก็จะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพและเที่ยวเตร่ เมื่อหมดเงินก็จะร่วมกลุ่มตระเวนก่อเหตุไปเรื่อยจนมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
พ.ต.อ.พรเพ็ชร ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้เสียหายกว่า 10 ราย ในเขตพื้นที่สภ.บางบัวทองว่ามีแก๊งคนร้ายตระเวณออกลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชนจนได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุพร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งสามารถบันทึกพฤติกรรมของแก๊งคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายสัญญา พร้อมกับพวกอีก 2 คนที่ยังหลบหนีอยู่ ทั้งหมดเป็นลูกน้องเก่าของแก๊งหมูบินที่เคยอาละวาดลักทรัพย์สินตามบ้านหรูเมื่อหลายปีก่อนจนมาถูกจับกุมตัวได้ซึ่งกลุ่มนี้เป็นลูกน้องที่รอดจากการจับกุมในครั้งนั้น ก่อนจะมาร่วมตัวกันตระเวนก่อเหตุในเขตพื้นที่กรุงเทพ นนทบุรีปทุมธานี โดยแก๊งนี้จะใช้วิธีเดียวกันกับแก๊งหมูบินคือขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆ ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในช่วงเวลากลางคืน ก่อนจะดูว่าประตูรั้วบ้านไหนที่มีการคล้องแม่กุญแจล็อคประตูรั้วหน้าบ้านไว้แสดงว่าไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน แก๊งนี้ก็จะลงมือเข้าไปก่อเหตุทันที่โดยจะใช้ครีมตัดแม่กุญแจเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้านคืนเดียวแก๊งผู้ต้องหาก่อเหตุที่หมู่บ้านเดียวกันถึง 4 หลังโดยทุกครั้งที่ลงมือก่อเหตุจะทำอย่างใจเย็นไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม จากการตรวจสอบประวัตินายสัญญา พบว่ามีหมายจับของสน.พระขโนง สน.อุดมสุข ในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ
พ.ต.อ.พรเพ็ชร ยังกล่าวอีกว่า หากประชาชนที่เคยถูกคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้านสามารถเดินทางมาดูของกลางได้ที่สภ.บางบัวทอง เพื่อรับของกลางคืนและแจ้งความดำเนินคดีกับแก๊งคนร้ายเพิ่มเติมต่อไป ส่วนคนร้ายอีก 2 คนที่หลบหนีอยู่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายตี๋ นามสมมุติ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้านที่เป็นผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า โดนคนร้ายแก๊งนี้เขามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้านซึ่งเป็นพระพุทธรูปบูชาเก่าแก่ไปหลายองค์มูลค่าประเมินราคาไม่ได้ วันนี้ก็รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับ 1 ในคนร้ายได้แล้ว แต่ก็เสียใจที่ไม่ได้พระพุทธรูปคืนเลยเพราะคนร้ายบอกว่านำไปขายแล้วในราคาองค์ละ 20,000 บาทซึ่งราคาจริงสูงกว่านั้นมาก
