นายประสงค์ สุนทรธรรมรัต อดีตนายกเทศบาลเมืองบางบัวทอง กลุ่มบางบัวทองก้าวหน้า มั่นใจประสบการณ์การทำงานการเมืองท้องถิ่นกว่า 30 ปีจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในครั้งนี้
นายประสงค์ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่ตนจะมาลงสนามการเมืองท้องถิ่นเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบางบัวทองนั้น ตนมีอาชีพค้าขายวัสดุก่อสร้าง ประกอบกับตนเป็นคนพื้นเพดั่งเดิมเป็นคนอำเภอบางบัวทองอยู่แล้วจึงมองเห็นปัญหาความเดือนร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ จึงได้ตัดสินใจลงสู่สนามการเมืองท้องถิ่นเมื่อปีพ.ศ.2528 โดยสมัครเป็นสมาชิกเทศบาลเมืองบางบัวทองครั้งแรก แต่สอบตกเนื่องจากไม่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ซึ่งตอนนั้นตนมองว่าเรายังอายุน้อยแค่ 20 ต้นๆชาวบ้านยังไม่รู้จักแต่ตนก็ไม่ย่อท้อยังคงทำงานดูแลประชาชนมาอย่างต่อเนื่องเท่าที่เราพอทำได้ จนกระทั่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางบัวทองใหม่แทนคนเก่าที่ลาออก ตนก็ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนได้เป็นสมาชิกเทศบาลเมืองบางบัวทองเป็นสมัยแรก ตอนนั้นได้เงินเดือนแค่เดือนละ 1,400 บาทต่างจากที่เราค้าขายอย่างมาก แต่ด้วยที่ตนตั้งใจแล้วว่าอยากจะเข้ามาดูแลประชาชนในพื้นที่จึงตั้งใจทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนมาตลอดโดยยึดมั่นในคติประจำตัวคือ ความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นตั่งใจสร้างความเจริญให้กับบ้านเกิดจนสุดกำลัง ต่อมา ปี พ.ศ.2535 ได้รับความไว้วางใจจากสมชิกให้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีม และได้รับการเลือกตั้งเป็นและ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทองถึงปี 2538 กระทั่งปีพ.ศ.2539 ตนได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกให้ลงชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทองอีกครั้ง ผลปรากฎว่าตนได้สมาชิกเทศบาล 9 คนจาก18 คน แต่มาแพ้เลือกตั้งเพราะคะแนนชี้ขาดมาจากประธานสภาทำให้ตนพ่ายแพ้ ไม่ได้เป็นนายก ในครั้งนั้น แต่เราก็ยังคงทำหน้าที่สมาชิกสภาเทศบาลที่ดูแลประชาชนในการเป็นฝ่ายค้านคอยตรวจสอบการทำงานจนกระทั่งหมดวาระ
หลังจากนั้นพ.ศ.2543 ตนก็ได้ตัดสินใจไม่ลงชิงตำแหน่งนายเทศบาลเมืองบางบัวทอง เปิดโอกาสให้กับคนที่มีความพร้อมมากกว่าตนแต่มีอุดมการณ์เดียวกันจึงมาลงเป็นสมาชิกเทศบาลแทนและได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้งหนึ่ง จนกระทั่งปี 2554 ตนก็ยังคงลงสมัครเป็นสมาชิกเทศบาลของทีมนายกอาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ แต่ครั้งนี้ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทอง กระทั่งปีพ.ศ.2561 นายกอาวุธ ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นนายกเทศมนตรี ตนจึงถูกเลื่อนขึ้นมารับตำแหน่งรักษาการนายกเทศมนตรีแทนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
จนกระทั่งทาง กกต.ได้มีการประกาศให้มีการรับสมัครเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2564 โดยจะเปิดรับสมัครในวันที่8-12 ก.พ.64 ตนจึงได้ลงสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบางบัวทอง ในนามกลุ่มบางบัวทอง ก้าวหน้าโดยส่งสมาชิกเทศบาลครบทั้ง 3 เขต 18 คน โดยมีอดีดสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางบัวทอง จำนวน 7 คน ที่ร่วมทีมในครั้งนี้ โดย มีสโลแกนว่า “ซื่อสัตย์ สุจริต กล้าคิด กล้าทำ ไม่ทิ้งประชาชน” หากหลังจากนี้กลุ่มตนได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวเทศบาลเมืองบางบัวทอง จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องการปรับปรุงถนนหนทาง และติดตั้งไฟส่องสว่างให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ นอกจากนี้จะเร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ เป็นอันดับแรกเพื่อเป็นหูเป็นตา และความปลอดภัยของประชาชน เพราะเทศบาลเมืองบางบัวทองกำลังเป็นเมืองที่มีการพัฒนาในพื้นที่อย่างรวดเร็ว จะต้องทำให้ครอบคลุมและทั่วถึง เน้นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นหลัก ทางด้านนโยบาย ส่งเสริมการศึกษา ยกระดับการกีฬา พัฒนาเมืองบางบัวทองให้ก้าวหน้า
