ไฟโหมลุกไหม้ชุมชนย่านท่าน้ำบางศรีเมืองจังหวัดนนทบุรีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงควบคุมเพลิงได้ ขณะที่ผู้เสียหายจากไฟไหม้เครียดไม่สามารถนำเครื่องมือทำมาหากินออกมาไม่ได้เลยสักชิ้นเดียว
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 23 ม.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี พร้อมกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลบางศรีเมือง ,บางกร่าง ,บางกรวย และใกล้เคียงรวมถึงอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย นำรถดับเพลิงกว่า 20 คันเข้าตรวจสอบเพลิงไหม้บ้านซึ่งเป็นชุมชนชื่อชุมชนท่าน้ำบางศรีเมือง หมู่ 3 ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จึงเร่งเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ห้องเช่าชั้นเดียวซึ่งเป็นไม้ปลูกติดกันจำนวน 2 แถวที่มีจำนวนทั้งหมด 24 ห้องเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และลุกลามอย่างรวดเร็ว ทางเจ้าหน้าที่เร่งระดมใช้น้ำมากกว่า 10 หัวฉีดพยายามฉีดดับไฟ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านและห้องเช่าที่อยู่ติดกันโดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบว่าที่เกิดเหตุมีส่วนหนึ่งที่มีลักษณะเป็นที่เก็บของเก่าเช่นลังกระดาษ พลาสติก กระป๋องสี รวมถึงไม้เก่าจำนวนมากที่เก็บสะสมไว้จุดดังกล่าวค่อนข้างใช้เวลาดับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่นาน เพราะว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 2 ช.ม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้หลังเพลิงสงบตรวจสอบห้องเช่าไม้ชั้นเดียว 2 แถวจำนวน 24 ห้องเสียหายทั้งหมดรวมถึงที่เก็บของเก่าด้วยเช่นกัน
นายโกมล โกมุตธนชาติ อายุ 67 ปีช่างทำกุญแจที่อยู่ตรงข้ามที่เกิดเหตุกล่าวว่าตอนเกิดเหตุเห็นแต่เพียงกลุ่มควันโพยพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรงจากในชุมชนก่อนที่จะมีแสงไฟลุกไหม้ตามมาโดยจุดเกิดเหตุนั้นเป็นลักษณะห้องเช่าไม้ ขณะที่ทางด้านนายนพเดช อาจอาสา อายุ 24 ปีมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างเป็นผู้อยู่อาศัยในห้องเช่าที่ถูกไฟไหม้เล่าเหตุการณ์ว่าขณะเกิดเหตุตนเองและครอบครัวอยู่กันในห้อง พบกลุ่มควันเกิดขึ้นมาจากด้านหลังชุมชนที่อยู่ติดกับริมคลองหลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีแสงเพลิงลุกไหม้ห้องเช่าอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้ ตนเองนำรถ จยย.ออกมาได้เพียงก็2 คัน ส่วนอีก 1 คันและเครื่องมือช่างซึ่งเป็นเครื่องมือทำมาหากินนำออกมาไม่ทันถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดซึ่งมูลค่าเสียหายนั้นประมาณ 5 แสนบาท
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบถามผู้ที่อยู่อาศัยบ้านเช่าดังกล่าวไว้ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบและยังไม่ยืนยันว่าไฟไหม้ครั้งนี้เกิดจากสาเหตุใด จะต้องสอบถามพยานแวดล้อมรวมถึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเหตุที่แท้จริง ต่อไป
