X

แม่หอบหลักฐานร้องทนายลูกชายวัย 14 ถูกไฟดูดตายเรื่องเงียบ

คุณแม่หอบหลักฐานเข้าร้องทนายหลังจากลูกชายวัย 14ปี ถูกไฟดูดในสนามฟุตบอล นำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิต เวลาผ่านไปเกือบปีเรื่องเงียบ กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันที่ 15 พ.ค. 63 ที่สำนักงานทนายคู่ใจ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.ปานิดา ดอกเงิน อายุ 33 ปีชาว จ.ปทุมธานี นำเอกสารเป็นรูปภาพวันเกิดเหตุเข้าพบทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมขอความช่วยเหลือให้ติดตามคดีที่เด็กชายณรงค์ฤทธิ์ ฉิมมี อายุ 14 ปี บุตรชายได้เสียชีวิตเนื่องจากถูกกระแสไฟดูดภายในสนามฟุตบอล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน 62 เวลาประมาณ 13.00 น.โดยได้แจ้งความไว้ที่สภ.สามโคก ซึ่งผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทางตำรวจยังหาคนผิดไม่ได้ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากญาติเจ้าของสนามฟุตบอลเป็นที่ปรึกษาของ ส.ส.พรรคการเมืองใหญ่ในพื้นที่

น.ส.ปานิดา เผยว่า ลูกชายของตนเป็นคนชอบเล่นฟุตบอล ทุกวันจะต้องออกไปเตะฟุตบอลกับกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งอยู่ใกล้กันกับบ้าน โดยเฉพาะวันหยุดจะรวมกันเพื่อรวบรวมเงินไปเช่าสนามฟุตบอลเตะเป็นอย่างนี้มาตลอด แต่เมื่อวันที่ 15 เดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ลูกชายนั่งรอเพื่อนที่นัดกันไว้ภายในสนามฟุตบอล ซึ่งเป็นม้านั่งเหล็กยาว เชื่อมต่อกับโครงเหล็กที่เป็นหลังคาของสนามฟุตบอล ปรากฏว่าวันนั้นมีกระแสไฟรั่วดูดลูกชายจนหมดสติล้มลงตรงบริเวณดังกล่าว กลุ่มเพื่อนๆ และคนที่อยู่ในสนามได้แจ้งกู้ภัยเพื่อนำตัวส่งรพ.ปทุมธานี หลังจากนั้นลูกชายก็เสียชีวิตลง โดยทางแพทย์ที่รักษาแจ้งในเอกสารการตายว่า “ระบุสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้” หลังจากนั้นตนก็เดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.สามโคก ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้ตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย

และหาคนรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น จนกระทั่งผ่านมาถึงปัจจุบันเกือบ 1 ปียังไม่มีความคืบหน้า ตนมาทราบตอนหลังว่ามีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนไปแล้ว 3 ชุด ทำให้รู้สึกแปลกใจมากว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านั้นมีการส่งตัวแทนเข้ามาเจรจาเพื่อจะจ่ายเงินค่าเยียวยาการเสียชีวิตของลูกชาย ตนก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้เพราะอยู่ในช่วงอาการเสียใจ แต่หลังจากนั้นเรื่องเงียบหายไปและไม่ได้รับการติดต่ออีกเลย ไปสอบถามความคืบหน้าที่โรงพักก็ไม่ได้คำตอบ ตนทราบว่าเจ้าของสนามฟุตบอลนั้นเป็นญาติกับที่ปรึกษาส.ส.ในพื้นที่อาจทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความเกรงใจในการทำคดี ตนเห็นว่าเหตุการณ์นี้ผ่านมานานหลายเดือนแล้วเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้พยายามติดต่อกับทนายเพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งวันนี้ตนรู้สึกดีใจมากที่สามารถติดต่อได้และทางทนายได้นัดให้มาพบพร้อมเอกสารหลักฐานที่มีอยู่

ด้านนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ กล่าวว่า หลังจากได้รับการติดต่อจากน.ส.ปานิดา เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องคดี จึงได้นัดให้มาพบหลังจากพูดคุยกันแล้วพบว่าเรื่องคดีไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรแต่ทำไมถึงต้องใช้เวลานาน เบื้องต้นจะให้น้องที่เป็นทนายที่สำนักงานไปตามเรื่อง ถ้าพบว่าพื้นที่อึดอัดใจไม่สะดวกในการที่จะทำคดีด้วยสาเหตุใดก็แล้วแต่ทางเราก็จะขอโอนเรื่องไปให้กองปราบเข้ามาทำคดีแทนต้องพิสูจน์ความจริงให้ได้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน