X

กู้ภัยร้องสื่อถูกรถกระบะแซงและพยายามเบรคให้ชนท้าย ขณะนั้นในรถกู้ภัยมีผู้ป่วยหนัก

อาสากู้ภัยร้องสื่อถูกรถกระบะแซงและพยายามเบรคให้ชนท้าย โดยขณะนั้นในรถกู้ภัยมีผู้ป่วยหนักกำลังเร่งนำส่งโรงพยาบาล วอนรถคู่กรณีอย่าทำแบบนี้พร้อมนำหลักฐานเข้าแจ้งความ

วันที่ 8 มี.ค.63 นายธนาอัศม์ ภินันท์อัครสิน อายุ 28 ปีอาสาสมัครกู้ภัยได้เข้ามาร้องผู้สื่อข่าวว่าในขณะที่กำลังนำคนป่วยหนักส่ง ร.พ.ระหว่างทางถูกรถยนต์กระบะคันหนึ่งบีบแตรใส่ก่อนที่จะแซงไปอยู่ด้านหน้าจากนั้นพยายามเบรคให้รถตนเองคือรถตู้พยายบาลชนท้ายตลอดระยะทาง 3 ก.ม.เมตรซึ่งขณะนั้นเปิดสัญญานไฟไซเรนและในรถมีผู้ป่วยที่ต้องให้อ๊อกซิเจนรวมถึงอาสาสมัครและญาติที่คอยดูคนป่วยอยู่ในรถ

นายธนาอัศม์  เล่าว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.58 น.วันที่ 7 มี.ค.63 ได้ไปช่วยเหลือชายอายุ 59 ปีเป็นผู้ป่วยติดเตียงมีอาการเหนื่อย หอบ เคลื่อนย้ายจากบ้านในซอยวัดกู้ไปส่งยังร.พ.ปากเกร็ด 2 โดยต้องให้อ๊อกซิเจนคนป่วยไปภายในรถ โดยในรถจะมีญาติและอาสาสมัครคอยดูแลคนป่วย เมื่อขับขึ้นสะพานพระราม 4 ซึ่งขึ้นจากหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ฮอลลีวูด ปากเกร็ด พอมาถึงจุดรวมบนสะพานพระราม 4 ได้ตัดออกเลนขวา จังหวะนั้นมีรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอน คันนึงมีโครงเหล็กสแตนเลสที่กระบะท้าย ขับมาพอดี ซึ่ง ณ.ตอนนั้นตนเองไม่รู้ว่าไปปาดหรืออย่างไร รถกระบะบีบแตร ใส่ ตนเองก็บีบแตรกับ รถกระบะขับแซงขึ้นได้ไปอยู่ด้านหน้าและพยายามเบรคให้รถตนเองชนท้ายตลอดเวลา พอชลอรถเพื่อไม่อยากมีปัญหาเพราะในรถมีผู้ป่วยหนัก รถกระบะคันนี้ก็ยังชลอตามไม่ให้รถของตนเองแซงและพยายามเบรคให้ชนหลายครั้ง จนกระทั่งขับมาถึงต่างระดับ สาลีโข หรือต่างระดับชัยพฤกษ์ตัดราชพฤกษ์ ถึงได้แยกย้ายกันรถตนเองเบี่ยงเพื่อมาทางด้านถนนสาย 345 และรถกระบะคันดังกล่าวปาดหน้าก่อนที่จะขับตรงไปทางอำเภอบางบัวทอง

ซึ่งหลังเกิดเหตุดังกล่าวตนเองได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด และขอดูกล้องวงจรปิดแล้วพร้อมกับนำหลักฐานไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจะให้พิจารณาข้อหาเพื่อเอาผิดรถกระบะคันดังกล่าว โดยที่ตนเองหลังจากดูกล้องวงจรปิดแล้วรถกระบะเขาคงเข้าใจว่าเราคงไปปาดหน้าเขาซึ่ง ณ.ตอนนั้นรถมาไม่เร็วและไม่เห็นรถกระบะคันดังกล่าวจริงๆ ซึ่งตนเองอยากถามว่าทำแบบนี้เพื่ออะไร ที่พยายามเบรคให้ชนท้าย ถ้าผิดก็แค่เปิดกระจกบอกกัน อีกอย่างรถก็เปิดไฟไซเรน แต่เพียงไม่ได้เปิดเสียงแค่นั้นหรือเขาคิดว่าเราเปิดไฟไซเรนเล่น อยากเตือนครับอย่าไปทำแบบนี้เลยมันอันตรายมากและยิ่งในรถมีผู้ป่วยอยู่ด้วย หนักนิดเบาหน่อยค่อยๆพูดกันดีกว่า ส่วนเหตุการณ์นี้ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางข้อกฎหมายว่าผิดในข้อหาใดบ้างรวมถึงให้สังคมเป็นผู้ตัดสินอีกทางหนึ่งด้วย

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน