คนดูแลตลาดโบ้เบ้นำหลักฐานร้องทนายหลังถูกทำร้ายโดยถูกคนร้ายใช้มีดปาดคอจนบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุแจ้งความแล้ว 4 เดือนคดีไม่คืบ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 5 ก.พ 63 นายสุวัจน์ เปียใย อายุ 45 ปี คนดูแลตลาดโบ้เบ้นำเอกสารหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดเข้าร้องเรียนกับ ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรนณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ที่สำนักงานทนายคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ให้ช่วยติดตามคดีคนร้ายใช้มีดปาดคอตนเองภายในห้องน้ำตึกโบ้เบ้เทาว์เวอร์ชั้น 1 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ย 62 เวลาประมาณตี 2.30 น. จนได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังแจ้งความที่สน.นางเลิ้ง แต่คดีไม่มีความคืบหน้านานกว่า 4 เดือน
นายสุวัจน์ กล่าวว่าวันเกิดเหตุตนไปคอยดูแลตลาดให้กับพ่อค้าแม่ค้าตามปรกติ กระทั่งเวลา 02.30 น.ตนได้เดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะ ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวห้องน้ำจะไม่ค่อยมีคนมาใช้บริการเพราะยังไม่เปิดให้บริการสำหรับคนที่จะมาซื้อของ ขณะทำธุระอยู่ก็มีมือของคนร้ายเอื้อมมาล็อคคอตนก่อนใช้อาวุธมีดปาดเข้าที่ลำคอจนหลอดเลือดดำขาดด้วยความตกใจตนจึงใช้มือแย่งมีดกับคนร้ายจนได้รับบาดเจ็บที่มือขวา ก่อนวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากรปภ.ให้ช่วยตามจับคนร้ายส่วนตนรีบขี่รถจยย.ไปรักษาที่รพ. แพทย์รีบนำตัวเข้ารักษาในห้องไอซียู เย็บหลอดเลือดดำ 20 เข็มเส้นเอ็นที่มือขวา 10 เข็ม นาน 5 วันจึงอนุญาตให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้ซึ่งทุกวันนี้อาการบาดเจ็บก็ยังไม่หายต้องรักษาตัวมาตลอดหมดค่ารักษาพยาบาลไปกว่า 200,000 บาท ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายณัฐพงษ์ หรือปิ่น ศรีวิชัยวงค์ พ่อค้าในตลาดเดียวกับตน หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ซึ่งหลังแจ้งความไปนานกว่า 4 เดือนคดีกลับไม่มีความคืบหน้า ทุกวันนี้ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเกรงว่าคนร้ายจะมาทำร้ายอีก ไม่กล้าไปทำงานหรือเข้าห้องนำ้เพียงลำพัง จึงตัดสินใจนำเรื่องมาร้องเรียนให้ทนายรณณรงค์ช่วยติดตามคดีให้ ส่วนสาเหตุที่นายณัฐพงษ์มาก่อเหตุทำร้ายตนนั้นมีเพียง 2 สาเหตุคือต้องการฆ่าตนเพื่อหวังชิงสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาทที่ตนส่วมใส่กับเรื่องที่ตนเคยมีเรื่องกับน้องชายนายณัฐพงษ์เรื่องการขายของในตลาดจนมีเรื่องชกต่อยกัน
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่าหลังจากนี้จะรวบรวมเอกสารหลักฐานของผู้เสียหายทั้งหมด ไปยื่นเรื่องที่กองปราบปรามให้ช่วยติดตามคดี เพราะคนร้ายลงมืออย่างโหดเหี้ยมหวังให้ผู้เสียหายถึงแก่ชีวิต ซึ่งทุกวันนี้ยังจับตัวคนร้ายไม่ได้ผู้เสียหายต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงเกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซำ้
