อาจารย์เฉลิมชัยเอ็นดูเด็กไร้ที่เรียนอนุญาตให้ใช้หลังวัดร่องขุ่นเรียน

เชียงราย-เด็กๆและผู้ปกครอง A.M.E.C.ยังคงหาสถานที่เรียนใหม่ยังไม่ได้ วิ่งขอความเมตตา”อ.เฉลิมชัย”ขอใช้โรงเหล็กหลัง”วัดร่องขุ่น” จัดแคมป์กิจกรรมภาษาอังกฤษชั่วคราว ขณะที่ผู้บริหารสมาคมฯ เร่งทำเอกสารยื่นศาลปกครอง

ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (18 พ.ค.61) บรรดาผู้ปกครองเด็กนักเรียน A.M.E.C. ที่ยังมีความมั่นใจมุ่งมั่นที่จะเรียนอยู่กับ A.M.E.C.จำนวน 50 ราย ได้ช่วยกันใช้รถอีแต๋น ทำการขนย้ายทรัพย์สินและอุปกรณ์การเรียนบางส่วนออกจากห้องเรียนพิเศษ ที่โรงเรียนโรงเรียนอนุบาลเชียงราย(สันทรายราษฎร์อรุณานุเคราะห์) หรือ A.M.E.C ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย มาไว้ที่อาคารโรงเหล็กของ”วัดร่องขุ่น” ภายหลังถูกคำสั่งจากเขตพื้นที่การศึกษาฯ ให้ทำการปิดการเรียนการสอน และทำการปิดล็อกประตู ห้ามเข้าออกในพื้นที่ของโรงเรียนโดยเด็ดขาด เมื่อช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ต่อมาในเวลาประมาณ 20.00 น. นพ. ชวน ชีพเจริญรัตน์ นายกสมาคมผู้ปกครองและครู A.M.E.C. ได้รับการประสานจากนายขจร แก้วตา ผอ.โรงเรียนอนุบาลเมืองเชียงราย (สันทรายราษฎร์ดรุณานุเคราะห์) หรือโรงเรียนแม่ของ A.M.E.C. ให้สามารถเข้าไปดำเนินการย้ายสิ่งของและทรัพย์สินที่ตกค้างอยู่ภายในโรงเรียนได้ในเวลา 09.00 น.ของวันนี้ออกไป ซึ่งทางผู้บริหารสมาคมฯ ได้ปรึกษาหารือกับคณะครู รวมถึงผู้ปกครอง ที่ยังมีความมั่นใจในระบบการเรียนการสอน และมีความมุ่งมั่นที่จะให้บุตรหลานเรียนอยู่กับ A.M.E.C. ต่อไปนั้น เพื่อหาสถานที่จัดการเรียนการสอนในระบบของ A.M.E.C.ต่อไป ในเบื้องต้นระหว่างที่ยังหาสถานที่ที่เหมาะสมที่จะจัดการเรียนการสอนได้ และเพื่อไม่ให้การเรียนการสอนต้องสะดุดหยุดลง ส่งผลร้ายต่อเด็ก จึงได้ประสานขอความเมตตาจาก “อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาติชื่อดัง เพื่อขอใช้พื้นที่บางส่วนของ “วัดร่องขุ่น” เพื่อจัดกิจกรรมแคมป์ภาษาอังกฤษ เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะหาสถานที่ที่มีความเหมาะสมได้ โดย อาจารย์เฉลิมชัย ได้เมตตาให้ใช้อาคารโรงเหล็ก ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านหลังของวัดร่องขุ่น ไปทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากอาคารศิลปะต่างๆ ของวัดฯ ประมาณ 300 เมตร เพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมของเด็กดังกล่าว เป็นเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ จนกว่าจะหาสถานที่จัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมต่อไปได้นพ.ชวน ชีพเจริญรัตน์ ได้กล่าวถึงความคืบหน้า ในการจัดหาสถานที่จัดการเรียนการสอนแห่งใหม่ มีความคืบหน้าไปพอสมควร แต่ยังติดปัญหาบางประการซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถกำหนดเปิดได้เมื่อใด พวกเราชาว A.M. C.E.ทุกคนต้องขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์เฉลิมชัยฯ ที่ได้ให้ความเมตตากับพวกเราในครั้งนี้ สำหรับการ กิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้เด็กๆ ได้มีประสบการณ์ในการอยู่ร่วมกัน สร้างความสามัคคีกลมเกลียวในหมู่คณะ รวมทั้งจะได้รับการอบรมทักษะวิชาการต่างๆ เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ยังจะได้มีความใกล้ชิดกับงานศิลปะ ที่มีความงดงาม อ่อนช้อย และปราณีต โดยฝีมือของท่านอาจารย์เฉลิมชัยฯ และทีมงาน ซึ่งจะส่งผลต่อจิตใจของเด็กๆ ให้มีความรักในงานศิลปะไทย อีกด้วย สำหรับในส่วนเรื่องของการดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ขณะนี้ทางทีมกฎหมายกำลังเร่งจัดเตรียมเอกสารให้พร้อม และให้มีความละเอียดสมบูรณ์ คาดว่าจะสามารถยื่นเอกสารได้ทันภายในสัปดาห์หน้ารายงานข่าวได้แจ้งต่อว่า ภายหลังจาก A.M.E.C.ต้องปิดตัวลงได้ส่งผลนักเรียนต้องหยุดเรียนโดยปริยายซึ่งเมื่อมีข่าวว่า ทางผู้บริหารฯ และผู้ปกครอง จะนำเรื่องไปฟ้องต่อศาลปกครองนั้น ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานขอเข้าสัมภาษณ์กับ นายขจร แก้วตา ผอ.โรงเรียนอนุบาลเมืองเชียงราย (สันทรายราษฎร์ดรุณานุเคราะห์) เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของการจัดสถานที่รับเด็กนักเรียนที่คาดว่าจะพากันย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ รวมถึงสภาพห้องเรียนใหม่ และแผนการเรียนการสอนว่าจะเป็นเช่นใด มีความคล้ายใกล้เคียงกันกับมาตรฐานของ A.M.E.C. หรือไม่ แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับมา จึงได้
เดินทางไปยัง สำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมเขต 1 เพื่อพบกับ ดร.สมบูรณ์ ธัรมลังกา ผู้อำนวยการศึกษาเขต เพื่อสอบถามเกี่ยวกับความคืบหน้าในปัญหาดังกล่าว พบว่า ดร.สมบูรณ์ได้เดินทางไปศึกษาดูงานยังประเทศจีนโดยมีกำหนดเดินทางกลับถึงประเทศไทยในช่วงค่ำของวันนี้ หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางต่อไปยังศึกษาธิการจังหวัด เพื่อพบกับนายนพรัตน์ อู่ทอง ศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย ที่นั่งทำงานภายในห้องชั้น 2 แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าพบ โดยให้เหตุผลว่าทางศึกษาธิการจังหวัดต้องรอให้ ผอ.เขต 1 รายงานมาให้ทราบก่อน ช่วงนี้ก็พอทราบข่าวดังกล่าวตามที่ผู้สื่อข่าวได้รายงานเท่านั้น ซึ่งกำลังติดตามข่าวว่าจะมีผู้บริหาร A.M.E.C.
และผู้ปกครองจะนำเรื่องไปฟ้องศาลปกครองด้วยแล้ว จึงต้องเตรียมการในการรับมือ หากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริง อีกด้วย ซึ่งความคืบหน้าของข่าวนี้จะรายงานให้ทราบ ต่อไป

ข่าวโดย : เพทาย บ้านชี รายงาน