X

บวชต้นไม้ ให้เป็นมรดกของแผ่นดิน

เชียงราย-บวชต้นไม้ ให้เป็นมรดกของแผ่น

ดิน
วันที่ 26 ก.ค.62 ที่วัดพระธาตุเจดีย์หลวง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายสุกิตต์ แก้วแกมจันทร์ปลัดอาวุโส อำเภอเชียงแสน เป็นประธานบวชต้นไม้กว่า 1,300 ต้น หลายต้นอายุหลายร้อยปี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้เปรียบดั่ง “ร่มโพธิ์ไทร” ของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2562 โดยมีนายบุญส่ง เชื้อเจ็ดตน ประธานคณะทำงานบวชต้นไม้เมืองเชียงแสน นายชยกฤษณ์ นิสสัยสุข นายกเทศมนตรีตำบลเวียงเชียงแสน นายธวิท ติยะกว้าง ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลเวียง นายมานิตย์ ไชยกิตติ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเชียงแสน นายภานุวัฒน์ ศรีสุข ผู้ประสานงานโครงการบวชต้นไม้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม โรงเรียนเชียงแสนอคาเดมี นรข.เขตเชียงราย ตชด.327 หน.ส่วนราชการ และประชาชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก

เริ่มจากพระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ตามต้นไม้ จากนั้นได้แยกกันออกห่มผ้าเหลืองต้นไม้สักขนาดใหญ่ที่มีอายุหลายร้อยปีภายในวัดพระธาตุเจดีย์หลวง และร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้ง 5 ต้น ก่อนที่จะนำผ้าเหลืองไปห่มต้นไม้ที่อยู่บนบนกำแพงเมืองทั้ง 3 ด้านและต้นไม้ขนาดใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำโขง

นายภานุวัฒน์ ได้เปิดเผยว่า ต้นไม้สักที่อยู่ในเขตเมืองเชียงแสนน่าจะมีมากกว่า 3 พันต้น แต่วันนี้ทางโครงการบวชต้นไม้สัก จะทำการบวชต้นสักที่อยู่บนกำแพงเมืองที่มีกว่า 1,300 ต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้เปรียบดั่ง “ร่มโพธิ์ไทร” ของประชาชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2562 และส่งเสริมสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน และประชาชนได้เล็งเห็นความสำคัญของต้นไม้และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฟื้นฟูและดูแลรักษาต้นไม้เหล่านี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นที่มีต้นไม้นั้นๆ ตั้งอยู่

นายภานุวัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ต้นไม้สักที่ขึ้นอยู่บนกำแพงเมือง และในโบราณสถานต่างๆในเมืองเชียงแสน นับเป็นมรดกทางธรรมชาติที่บอกเล่าเรื่องราวความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในชุมชนได้เป็นอย่างดี สะท้อนถึงความผูกพันของคนกับธรรมชาติ วัฒนธรรมไทย ความเชื่อ ความศรัทธาของแต่ละท้องถิ่น ตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อันแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติผ่านต้นไม้ในแต่ละพื้นที่ ดังนั้นทุกคนในท้องถิ่นต้องสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางธรรมชาติ และสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์และหวงแหนทรัพยากรทางธรรมชาติเหล่านี้ให้แก่ลูกหลานในชุมชนให้ได้รู้คุณค่าและอนุรักษ์ไว้ให้ยั่งยืนเป็นมรดกของท้องถิ่น และมรดกของแผ่นดิน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สราวุธ คำฟูบุตร

สราวุธ คำฟูบุตร

เสนอข่าวทุกมิติ เจาะลึกทุกประเด็น ID LINE : yai8881