เปิดกรุใต้ฐานรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

จ.เชียงราย จัดงานครบรอบ 3 ปีการก่อตั้งสมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาฯ และเปิดกรุใต้ฐานรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

วันที่ 19 ก.พ. 66 ที่พุทธมณฑลสมโภช 750 ปีเมืองเชียงราย ต.บัวสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย คณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายและพุทธศาสนิกชน จัดงานครบรอบ 3 ปีการก่อตั้งสมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย-ยุวพุทธสัมพันธ์และเปิดกรุใต้ฐานรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) 150 ปี โดยมีพระพุทธิญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน และมีคณะสงฆ์ทั่วทั้งจังหวัดร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ ที่สำคัญในงานยังมี นายอำพล ถาวรโลหะ พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.เขต 1 จ.พะเยา และอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภริยา เข้าร่วมในพิธีด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนจากทุกอำเภอเข้าร่วมนับพันคนโดยวันนี้มีกิจกรรมสำคัญ คือการพิธีมอบและเปิดกรุใต้ฐานรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) 150 ปี โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้เข้าร่วมในพิธีเปิดกรุพร้อมกับพุทธศาสนิกชน ซึ่งเมื่อเปิดกรุออกมาปรากฎเป็นพระสมเด็จจำนวนหนึ่งที่อยู่ใต้ฐานพระ เมื่อ ร.อ.ธรรนัสและพุทธศาสนิกชนเห็นพระสมเด็จที่อยู่ภายใต้ฐานรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ต่างพากันยกมือไหว้พร้อมกับเปล่งเสียง สาธุ สาธุ สาธุ จนกึกก้องทั่วทั้งพุทธมณฑลพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า พิธีสำคัญในครั้งนี้ถือว่าทุกคนได้มาร่วมกันทำบุญ ได้มาร่วมในพิธีมอบและเปิดกรุใต้ฐานรูปเหมือนสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เพื่อประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา ถือเป็นเรื่องที่ดีในการที่จะพัฒนาให้พุทธมณฑลสมโภช 750 ปีเมืองเชียงราย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิและใช้ประโยชน์ทางพุทธศาสนาสำหรับคนไทยทุกคนนายอำพล ถาวรโลหะ ประธานร่วมฝ่ายฆราวาส กล่าวว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรัสี) (นามเดิม โต) หรือนามที่นิยมเรียก “สมเด็จโต” “หลวงปู่โต” หรือ “สมเด็จวัดระฆัง” เป็นพระภิกษุมหานิกาย เป็นพระมหาเถระรูปสำคัญที่ได้รับความนิยมนับถืออย่างมากในประเทศไทย ท่านเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหารในสมัยรัชกาลที่ 4 – 5 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) นับเป็นพระเกจิเถราจารย์ผู้มีปฏิปทาจริยาวัตรน่าเลื่อมใส เป็นที่เคารพนับถือทั่วไปมาตั้งแต่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่พระมหากษัตริย์จนถึงสามัญชน และนอกจากจริยาวัตรด้านความสมถะอันโดดเด่นของท่านแล้ว ท่านยังทรงคุณทางด้านวิชาคาถาอาคม เมตตามหานิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุมงคล “พระสมเด็จ” ที่ท่านได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา ได้ถูกจัดเข้าในพระเครื่องเบญจภาคี หรือสุดยอดของพระเครื่องวัตถุมงคล 1 ใน 5 ของประเทศไทย ด้วยปฏิปทาจริยาวัตรและคุณวิเศษอัศจรรย์ของท่าน ทำให้พุทธศาสนิกชนชาวไทยเคารพนับถือว่าท่านเป็นอมตะเถราจารย์รูปหนึ่งของเมืองไทย และมีผู้นับถือจำนวนมากในปัจจุบัน“รูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี เป็นประติมากรรมปูนปั้นขนาดหน้าตักกว้าง 20.09 เมตร สูง 30.09 เมตร มีทั้งหมด 9 องค์ ได้ได้ดำเนินการส่งมอบให้ไปประดิษฐานตามสถานที่สำคัญต่างๆทั่วประเทศไปแล้ว จำนวน 5 องค์ สหรับองค์ที่ได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่ จ.เชียงราย เป็นองค์ที่ 6 แต่เดิมตั้งใจจะนำไปประดิษฐานที่ทางภาคอีสาน แต่ทาง ดร.รัตน์ธนวัช พุทธจันทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคก้าวไกล ได้ขอนำมาประดิษฐานที่ จ.เชียงราย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาวเชียงรายและภาคเหนือได้มีโอกาสมากราบไหว้สักการะ และทางผู้ใหญ่ในจังหวัดก็ได้เล็งเห็นว่า พุทธมณฑลสมโภช 950 ปีเมืองเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 95 หมู่ 2 บ้านต้นง้าว ต.บัวสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย เป็นสถานที่เหมาะสมต่อการประดิษฐานรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และยังมีพระพุทธรูป (พระสิงห์ 1) เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” นายอำพล กล่าวดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจ และสักการบูชาของพุทธศาสนิกชน เกิดพุทธศาสนสถานที่สำคัญอันเป็นศูนย์กลางของเชียงราย อ.แม่ลาว ส่วนราชการอำเภอแม่ลาว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอแม่ลาว จึงได้จัดโครงการอันเชิญรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มาประดิษฐาน ณ พุทธมณฑลสมโภช 750 ปีเมืองเชียงราย อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ด้าน ร.อ.ธรรมนัส ได้ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นพิธีเปิดกรุ กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่ได้มาร่วมในพิธีงานสำคัญ ก่อนที่จะมาเล่นการเมืองตนสนใจในพระพุทธศาสนามามาโดยตลอด โดยได้เดินสายตระเวนทำบุญตามวัดต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ และยังได้มีโอกาสนั่งสมาธิปฏิบัติธรรม เพราะเชื่อมั่นในพุทธธรรม แม้เมื่อมาทำงานการเมืองก็ยังทำบุญทุกครั้งที่มีโอกาส เชื่อว่าธรรมะจะรักษาผู้ประพฤติธรรม