เชียงราย-เจ้าของร้านกระจกอลูมิเนียม เจอเพื่อนบ้านหัวร้อนชักปืนข่มขู่ถึงหน้าร้าน คาดไม่พอใจเปิดเพลงเสียงดัง
วันที่ 29 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งนำคลิปวิดีโอและภาพใบแจ้งความลงโพสต์ในกลุ่มข่าวแห่งหนึ่งของจังหวัดเขียงราย และบรรยายเหตุการณ์ว่า ขณะเลิกงานเตรียมตัวจะกลับบ้าน ได้มีชายคนหนึ่งได้ขับขี่รถ จยย.มาจอดที่หน้าร้าน และยังชักปืนข่มขู่ เกรงจะไม่ปลอดภัยจึงไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.เมืองเชียงราย แล้ว
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามนายสุขสันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี และ น.ส.อนุสรา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สามีภรรยาซึ่งเปิดร้านกระจกอลูมิเนียมแห่งหนึ่ง อยู่แถวทุ่งพญาหมี ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย โดยนายสุขสันต์ได้พาไปชี้จุดที่เพื่อนบ้านหัวร้อนมาจอดรถและชักอาวุธปืนข่มขู่ และเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเปิดร้านกระจกอลูมิเนียมในชุมชนมาได้ประมาณ 6 ปีมาแล้ว แต่เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเลิกงานตนและลูกน้องได้ดื่มเบียร์และเปิดเพลงฟัง ก่อนจะปิดเพลงเตรียมกลับบ้านในเวลาประมาณ 19.26 น. ได้มีชายคนหนึ่งซึ่งอยู่บ้านห่างถัดไปอีกประมาณ 2 หลัง ได้ขับขี่รถ จยย.มาจอดที่หน้าร้าน ตนก็เลยถามว่ามีอะไรหรือเปล่า มีอะไรก็ลงมาคุยกัน ชายคนดังกล่าวก็พูดโต้ตอบกลับมา แต่ตนไม่ได้ยินว่าพูดอะไรเพราะอยู่ในรถ และชายดังกล่าวยังได้ชักเอาปืนพกสั้นที่เหน็บเอวเอาออกมาถือไว้ ก่อนจะนำปืนดังกล่าวไปเหน็บไว้ที่กางเกง ซึ่งตนได้บันทึกภาพไว้ตลอด หลังจากเกิดเรื่องตนก็หวาดกลัวว่าจะเกิดอันตราย เพราะที่ร้านมีทั้งแม่ ภรรยา และลูก กลัวจะไม่ปลอดภัย จึงไปแจ้งความไว้แล้ว
“ตนไม่รู้จักกับชายดังกล่าวเป็นการส่วนตัว แต่ที่ผ่านมาตนและลูกน้องเคยเปิดเพลงฟัง และถูกชายคนดังกล่าวไปแจ้งตำรวจมาตรวจสอบแล้ว 2 ครั้ง ตนยอมรับว่าเปิดเพลงฟังขณะทำงานจริง ส่วนใหญ่ลูกน้องจะเปิดฟัง แต่ไม่ได้เสียงดังขนาดไปรบกวนบ้านข้างเคียง และจะปิดเพลงประมาณ 1 ทุ่มทุกวัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน แต่ครั้งนี้มีการใช้อาวุธข่มขู่ด้วย ตอนนี้หวั่นปัญหาความปลอดภัย เพราะบางครั้งลูกเมียก็อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
ด้าน น.ส.อนุสรา สนสด อายุ 27 ปี กล่าวว่า ยอมรับว่าที่ร้านได้เปิดเพลงจริง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะเสียงดังรบกวนเขาหรือเปล่า เพราะบางครั้งในความคิดเราอาจไม่เสียงดัง แต่ความคิดเขาอาจเสียงดังก็ได้ แต่ยังไงเขาก็ไม่ควรพกอาวุธปืนมาในที่สาธารณะ หลังจากได้รับการแจ้งความแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และจะออกหมายค้นบ้านชายคนดังกล่าว เพื่อหาหลักฐานการกระทำผิด
