X

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมูดำเหมยซานฯ อ.เทิง ขอเป็นสะพานบุญ ส่งต่อข้าวสารอาหารแห้งให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เชียงราย-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมูดำเหมยซานฯ อ.เทิง ขอเป็นสะพานบุญ ส่งต่อข้าวสารอาหารแห้งให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านทุ่งต้อม ม.5 ต.ศรีดอนไชย อ.เทิง จ.เชียงราย มีการร่วมแรงร่วมใจจากคนในชุมชนและทั่วตำบล ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รัฐวิสาหกิจ และประชาชน นำเอาข้าวสารอาหารแห้งมาบริจาค เพื่อจะนำมาจัดสรรแจกจ่ายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีวิสาหกิจชุมชนกลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง เป็นผู้ดำเนินการ และได้รับการสนับสนุนโครงการจาก อบต.ศรีดอนไชย กำนันผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี

น.ส.พิชญาภา ณรงค์ชัย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหมูดำเหมยซานเกษตรพอเพียง เป็นการรวมตัวของกลุ่มเกษตรกรพื้นที่ตำบลศรีดอนไชย อ.เทิง เพื่อทำการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ในกลุ่มวิสาหกิจนี้ได้ดำเนินการทำเกษตรหลากหลายอย่าง ทั้งการปลูกข้าวอินทรีย์ ปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงวัว เลี้ยงปลา ฯลฯ และที่โดดเด่นมีชื่อเสียงระดับประเทศก็คือ “การเลี้ยงหมูดำเหมยซาน” ในจุดเริ่มต้นการจัดตั้งเราได้รับการสนับสนุนทรัพยากรหลายๆอย่างจากมูลนิธิชัยพัฒนา

จนกระทั่งทุกวันนี้ทางกลุ่มได้ก่อตั้งมากว่า 5-6 ปี ทางกลุ่มได้ขยับขยายส่งต่อทรัพยากรและเผยแพร่ความรู้ เท่าที่จะเอื้ออำนวย เพื่อแบ่งปันกลับไปสู่สังคม ในปีที่ผ่านมาเรามีการระดมบริจาคข้าวสารอาหารแห้งจากคนในพื้นที่ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยตามที่ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือเข้ามา

และในปีนี้ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติดังกล่าวเป็นจำนวนมาก และมีบางส่วนที่ร้องขอความช่วยเหลือเข้ามาในเพจ “ทุ่งต้อมเกษตรอินทรีย์Tungtom organics village” จากการรวบรวมรายชื่อผู้ขอรับความช่วยเหลือจากภาวะโควิดมีทั้งหมด 499 ราย จากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

“ทางกลุ่มจึงขอรับบริจาคข้าวสารอาหารแห้งจากหน่วยงานและประชาชนในตำบลศรีดอนไชย ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี บางคนมีของก็เอาของมาบริจาค ตอนนี้เรารวบรวมข้าวสารมาได้ประมาณ 700 กก. นำมาจัดสรรแบ่งเป็นชุดได้ 178 ชุด ซึ่งก็ยังไม่พอกับความต้องการ ส่วนคนไม่มีของก็เอาเงินมาบริจาค เพราะการจัดส่งของไปให้ผู้เดือดร้อน ทางกลุ่มฯจะแบ่งจัดสรรส่งไปให้ผู้ร้องขอทางไปรษณีย์ ซึ่งมีค่าดำเนินการจัดส่งสินค้า แต่จากจำนวนนี้ทางกลุ่มจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการจัดส่งอีกกว่า 8,000 บาท แต่อย่างไรก็ตามเราจะไม่ขอรับบริจาคจากบุคคลภายนอกพื้นที่ตำบลศรีดอนไชย” น.ส.พิชญาภา กล่าวถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ จากหนึ่งในผู้ที่เคยได้รับโอกาส และได้กลายเป็นผู้ที่หยิบยื่นความช่วยเหลือคืนให้แก่สังคม

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สราวุธ คำฟูบุตร

สราวุธ คำฟูบุตร

เสนอข่าวทุกมิติ เจาะลึกทุกประเด็น ID LINE : yai8881