X

เปิดใจนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวกาญจนบุรีหลังมีการจัดระเบียบแพ

พ.อ.(พิเศษ)ดร.สุรินทร์ จันทร์เพียร นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีเปิดใจครั้งแรกกับผู้สื่อข่าวหลังจากทางราชการมีการประชุมหารือการจัดระเบียบแพเพื่อความเป็นระเบียบและเพื่อความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำที่ผ่านมากล่าวว่าในสมัยนั้นที่ตนยังมียศร้อยโท (ร.ท. สุรินทร์ จันทร์เพียร) ก็มีแนวคิดที่จะหยิบยก อะไรที่เป็นวัฒนธรรม หรือเป็นจุดขายสำคัญที่จะมาเติมแต่งสร้างสีสันให้น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว จึงคิดว่าการล่องแพเป็นเสน่ห์ อย่างหนึ่ง ซึ่งการล่องแพต้องผ่านธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพร ผ่านเกาะแก่ง มีวิถีชีวิตตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง จึงได้มีการจัดตั้งชมรมขึ้นในสมัยนั้น

และต่อมาก็เข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานชมรมต่อจากผู้ก่อตั้งชมรมคนแรก เรื่อยมาหลายสมัยจนมาจัดตั้งเป็นสมาคมจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีแพท่องเที่ยวแม้แต่หลังเดียวในจังหวัดกาญจนบุรี หรือแม้แต่แพอาหาร แพพัก ไม่มีเลยแม้แต่แพที่เป็นธุรกิจนายกสมาคมฯกล่าวต่อว่าผมเป็นผู้ก่อตั้ง และจัดให้มีการประกวดแพ จัดโปรโมทออกทีวีในสมัยนั้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้รู้จักและมาท่องเที่ยวแพ ปรากฏว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง นักท่องเที่ยวเริ่มแห่มาท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน ประกวดนางงาม ประกวดเทพีสันติภาพ ประกวดร้องเพลง บริเวณสะพานแม่น้ำแควอย่างต่อเนื่องหลายปี และทำอย่างนี้มาตลอดแพเมืองกาญจน์เริ่มติดตลาด ร้านอาหารหน้าเมือง แพอาหารหน้าเมืองเริ่มเกิดขึ้น ทางชมรมเองก็ได้มีการส่งเสริม ให้ทุกคนได้มีรายได้ ในจังหวัดกาญจนบุรีจากการท่องเที่ยวแพ หลังจากนั้นมา ปรากฏว่าแพเมืองกาญ ก็เกิดขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง เติบโตขึ้นเรื่อยๆ นายกชาวเรือชาวแพ ชมรม หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป จนถึงวันนี้ก็หลายสิบปีผ่านมาแพเมืองกาญจน์ก็ได้ติดตลาดเป็นมาตรฐานแล้ว ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จึงยากที่จะสร้างที่ไหนได้ เป็นการส่งเสริมอาชีพของคนเมืองกาญจน์ ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร งานบริการต่างๆ เช่นพนักงานเสิร์ฟ คนปรุงอาหาร ทำให้เกิดมีรายได้กับคนในพื้นที่ ด้านการขนส่งเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ไม่ต้องส่งสินค้าไกล ก็นำสินค้ามาขายให้กับชาวเรือ ชาวแพ เป็นการกระจายรายได้สู่คนในพื้นที่ สมัยผมทำแพ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ยังจำได้ว่า มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัดกาญจนบุรีไม่เกิน 3 แสนคน

แต่วันนี้ทุกคนพูดถึงแพเมืองกาญจน์ มีนักท่องเที่ยวเข้ามากาญจนบุรี หลายสิบล้านคน นี่คือการเติบโตที่สำคัญส่วนหนึ่ง โดยอาศัยการท่องเที่ยวของชาวแพเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวผมขอถามว่าถ้ามีการจัดระเบียบแพให้เหลือ 1 ใน 5 จะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างไรนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นไหมหรือว่าลดลง รายได้จะเข้าสู่เมืองกาญจน์มากน้อยเพียงใด มองว่าบางทีการจัดระเบียบอาจจะเป็นการลองผิดลองถูกถ้าจัดระเบียบแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวในอนาคต แต่ถ้าแก้ไขไม่ตรงจุดก็อาจเกิดความเสียหายขึ้นกับการท่องเที่ยวได้เช่นกันรวมถึงผลกระทบกับคนกาญจนบุรีก็เกิดขึ้นเลย รายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาลดลง จึงขออยากฝากพี่น้องชาวกาญจนบุรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โปรดพิจารณาหรือใช้ดุลพินิจในการใช้กฎหมายอย่างสร้างสรรค์ ให้สังคมอยู่ได้อย่างก้าวหน้าไม่ใช่อยู่ได้แค่ 10 ปี 20 ปีแต่ต้องอยู่ได้ตลอดไปทุกอย่างต้องพัฒนาไปในทางที่ดี การใช้กฎหมายมาแก้ไขปัญหาของสังคมเป็นสิ่งที่ดี หากต้องมีการทำประชาพิจารณืตนก็ยินดีที่จะเข้าร่วมเพื่อบอกเหตุและผล ข้อดี ข้อเสียของการจัดระเบียบ ประโยชน์และโทษอันไหนมากกว่า ซึ่งกฎหมายก็มีไว้เพื่อแก้ไข ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ยกเลิกได้ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ผมอยากยกตัวอย่างตลาดน้ำดำเนินสะดวก ตลาดสำเพ็ง ตลาดพาหุรัด พ่อค้าแม่ค้าขายของกันอย่างสนุกสนาน ผมจึงอยากให้ชาวแพหน้าเมืองกาญจนบุรีเป็นไปอย่างนั้น มันเป็นเสน่ห์ ของการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเมืองกาญจน์ ซึ่งปัจจุบันบรรยากาศการเที่ยวเมืองกาญจน์จะเห็นได้ว่านักท่องเที่ยวชอบการถ่ายรูปขณะที่รถไฟ แล่นผ่านมา ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ถ้าเรามององค์รวมไม่เจอเราก็จะไม่เข้าใจการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีกล่าวทิ้งท้าย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน