สกลนคร-กู้ภัยทีมประดาน้ำพบร่างผู้เสียชีวิต เรือหาปลาล่มบริเวณเขื่อนน้ำอูน เหตุพายุพัดถล่มหลายพื้นที่ของจังหวัด เสียชีวิต 1 รอด 1 เผยนาทีชีวิตอัน โหดร้าย สงสารเพื่อน ขณะที่ตนต้องดิ้นรนเอาชีวิตจากพายุ ด้วยความเศร้า
วันที่ 9 มีนาคม 2561 ชุดเมตตาธรรมมูลนิธิ กู้ภัยสว่างแดนดินธรรมสถาน เดินทางไปยังเขื่อนน้ำอูน เขต บ.กุดตะกาบทุ่ง ม.17 ต.วาริชภูมิ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร หลังได้รับแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (8 มี.ค)เวลาประมาณ 15:30 น.เกิดอุบัติเหตุเรือหาปลาชาวบ้านที่ออกหาปลาในเขื่อนน้ำอูน ถูกแรงลมพายุฤดูร้อนซัดเรือหาปลาจนพลิกคว่ำมีผู้รอดชีวิต 1 ราย และสูญหาย 1 รายยังไม่ทราบชะตากรรมอัน โหดร้าย
ด้านผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ลอยคอในน้ำจนถึงฝั่งขึ้นไปร้องขอความช่วยเหลือกับผู้ใหญ่บ้านกุดตะขาบทุ่งโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อผู้รอดชีวิตคือนาย นายวันชัย เหล่ายนต์ขาม อายุ 48 ปี บ.ชัยมงคล ม.4 ต.นิคมน้ำอูน อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร ส่วนผู้สูญหาย ทราบชื่อ นายพรชัย วงแต้ม อายุ 31 ปี บ.หนองปิงน้อย(ผังสิบ)ต.สุวรรณคาม อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร
วันนี้จึงระดมชุดกู้ภัยค้นหาจากจุดที่เรือหาปลาล่มห่างจากฝั่งประมาณ 300 เมตร เมื่อตีกรอบบริเวณค้นหายังไม่พบจนกระทั่งบ่ายจึงยุติการค้นหารอชุดกู้ภัยหน่วยอื่นมาเสริมกำลัง
นายวันชัย ผู้รอดชีวิต ได้เล่าว่าเมื่อวานนี้หลังจากตนออกหาปลากับนายพรชัย ขณะแล่นเรืออยู่ในเขื่อนน้ำอูน ได้เกิดฝนตกหนักและลมแรงพัดต่อเนื่องกระทั่งมีคลื่นซัดเรืออย่างแรง จำนวน 2 ครั้ง น้ำได้ไหลเข้าเรือจึงกระโดดลงเรือประคองเรือ แต่น้ำไหลเข้าเรือมากเกินไปจนเรือค่อยๆจมลง ตนจึงรีบคว้าแกลอนน้ำมันยัดใส่เข้าเสื้อเพื่อทำให้ตัวเองลอยได้
จังหวะนั้นนายพรชัย พยายามจะกู้เอาคันเบ็ดที่กำลังจมลง จึงได้ตระโกนให้ห่วงชีวิตก่อน แต่นายพรชัย บอกว่าพอไหวเนื่องจากเป็นคนว่ายน้ำเก่ง และชำนาญการหาปลา ต่อมาคลื่นยังซัดอย่างต่อเนื่อง ลมพายุแรงมากมืดฟ้ามัวดินขาวโพลนไปหมด จนนายพรชัยหายไป เข้าใจว่านายพรชัยดำน้ำลงไปงมเอาเบ็ดที่จมอยู่ จากนั้นคลื่นขนาดยักษ์ ได้ซัดตนมาเอย่างต่อเนื่อง จนถึงฝั่งตนเป็นห่วงนายพรชัยมาก แต่ก็ไม่สามารถทราบถึงชะตากรรมของนายพรชัย
นายลำไพ เป้งคำภา ผู้ใหญ่บ้าน บ.กุดตะกาบทุ่ง ม.17 ต.วาริชภูมิ วาริชภูมิ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร กล่าวว่า ภายหลังพยายามค้นหาผู้สูญหายแล้วยังไม่พบ จึงนำทีมลูกบ้านที่ชำนาญการในการทำประมงมาช่วยอีกแรงกับ จนท.กู้ภัย เพื่อทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง หากเสียชีวิตแล้วก็ต้องนำร่างขึ้นมาบำเพ็ญกุศลให้ได้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครทราบว่าผู้สูญหายยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ทีมประดาน้ำกู้ภัยทำงานอย่างสุดความสามารถอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย จนพบร่างและนำผู้เสียชีวิตขึ้นจากน้ำในช่วงเย็น สร้างความเศร้าสลดเสียใจต่อญาติมิตร ทีมกู้ภัยทุกคน และผู้พบเห็นเป็นอันมาก
โดยสรุปล่าสุดผลกระทบจากพายุฤดูร้อนเมื่อวานนี้มีบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสีย หายรวมกว่า 200 หลัง ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง 1 แห่ง ศาลาที่พักริมทาง 1 หลัง เสาไฟหักโค่นกว่า 20 ต้น มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 9 ราย รวมถึงสิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ
