สกลนคร-ป่าไม้นำทีม“ยุทธการทวงคืนผืนป่า” สวนยางพารารุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาภูพาน 260 ไร่ เตรียมประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.)ระดับจังหวัด จัดสรรให้ชาวบ้านที่ทุกข์ยาก ห้ามโอน ห้ามขาย ทำกินอย่างเดียว
จากการอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ พล.ต.สุขพัฒน์สณฑ์ สุขสร้อย ผบ.มทบ.29 พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผู้บังคับการปราบปรามทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.ต.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ นายวีระ มานิสรณ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 นครพนม สั่งการให้ จนท.นำกำลังเข้าสืบสวนจับกุมตรวจยึด ผู้กระทำความผิดบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ”ยุทธการทวงคืนผืนป่า”
จากนั้นวันที่ 8 ก.พ. 2561 ที่บ้านโคกกลาง ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย จ.สกลนคร ชุดปฏิบัติการยุทธการทวงคืนผืนป่า นำโดย นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)กรมป่าไม้ โดยมี นายชูชาติ เทพสุต ป่าไม้จังหวัดสกลนคร นำจนท.ป่าไม้เข้าร่วม มี จนท.กอ.รมน. จนท.ชุดพยัคฆ์ไพร จนท.ทหาร มทบ.29 ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ตชด.23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ สภ.ภูพาน สภ.เต่างอย อุทยานแห่งชาติภูผายล ตำรวจป่าไม้ ชุดสืบสวน ภ.จว.สกลนคร และฝ่ายปกครอง กว่า 150 นาย
นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 เรียกแถวพร้อมมอบหมายภารกิจแก่เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นไปตามแผนการพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูล้อมข้าวและป่าภูเพ็ก ท้องที่ ต.จันทร์เพ็ญ อ.เต่างอย หลังพบว่ามีนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนเพื่อปลูกยางพารา โดยพบว่ามีการบุกรุกอยู่ 2 จุด จุดแรกมีพื้นที่บุกรุกประมาณ 60 ไร่
จุดที่สองประมาณ 200 ไร่ ชุดปฏิบัติการปล่อยแถวเข้าพื้นที่ พร้อมนำป้ายแสดงการตรวจยึดพื้นที่ พร้อมแจ้งความดำเนินคดี ไปขึงประกาศไว้ในพื้นที่สวนยางทั้งสองจุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจสอบจากเอกสาร และพิกัดตำแหน่งที่ตั้งสวนยางพาราทั้งสองแห่งจนแน่ชัดแล้วว่าได้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ผอ.ศปป.2) กล่าวว่า พื้นที่ไหนเป็นพื้นที่ของชาวบ้าน มีเอกสารสิทธิ์ หรืออยู่ในเขต สปก. เราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ในพื้นที่ทั้งสองแห่งได้มีการตรวจสอบแล้วว่าอยู่นอกเขตที่ทำกิน สปก.และบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนชัดเจน พื้นที่ไหนเป็นของชาวบ้านทำมาหากินอย่างสุจริต ก็จะอยู่ในความคุ้มครองตามคำสั่ง คสช. ที่ 66 /2557 คือจะต้องไม่กระทบต่อชาวบ้าน
ยุทธการทวงคืนผืนป่า พื้นที่ อ.เต่างอย ครั้งก่อนรวมกับครั้งนี้ เนื้อที่ประมาณ 400 ไร่ กรมป่าไม้จะดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นพื้นที่ป่าแบบไหน หากเป็นพื้นที่ต้นน้ำก็จะทำการฟื้นฟู แต่บริเวณดังกล่าวคาดว่าอยู่ในโซน E ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นพื้นที่ทำกินแก่ชาวบ้านที่เดือดร้อนในพื้นที่ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.)ในระดับชาติ
ในระดับจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ในระดับอำเภอมีนายอำเภอเป็นผู้กำกับดูแล โดยจะไม่มอบกรรมสิทธิ์ให้เช่นในอดีต แต่จะให้เป็นพื้นที่ทำกินแบบแปลงรวม ชาวบ้านไม่มีกรรมสิทธิ์และไม่สามารถโอนพื้นที่ให้คนอื่นได้ แต่สามารถปลูกพืชผัก ทำไร่-นา เพื่อเลี้ยงชีพและสืบทอดสู่ลูกหลานเพื่อการทำกินเท่านั้น ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาการโอนที่ หรือแอบซื้อขายที่ในอนาคต นายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ.ศปป. 2 กล่าว
