ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ เขื่อนน้ำอูน อ.พังโคน จ.สกลนคร ก่อนหน้านี้ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง โดยมีการผันน้ำออกด้วยระบบกาลักน้ำเสริม กว่า 25 ท่อ มวลน้ำอยู่ที่ร้อยละ 101 ของความจุ ซึ่งปริมาณน้ำหากอยู่ระดับเดียวกับสปิลเวย์ จะอยู่ที่ 520 ล้าน ลบ.ม. แต่ด้วยร่องมรสุม ส่งผลให้มีฝนตกหนาแน่น ตลอด 3-4 วันที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำภายในเขื่อนน้ำอูนสูงขึ้น
ล่าสุดวันนี้ (25 สิงหาคม 2561) อยู่ที่ 563 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 108 ของความจุ เขื่อนน้ำอูนยังมั่นคงแข็งแรงดี พร้อมระบายน้ำผ่านระบบกาลักน้ำ ออกไปตามลำน้ำอูน ซึ่งจะไหลผ่าน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และ อ.นาหว้า จ.นครพนม ก่อนไปบรรจบที่ลำน้ำสงคราม ด้านน้ำโขงล่าสุดยังคงหนุนสูงอยู่ จึงส่งผลให้การระบายน้ำในลำน้ำอูน และลำน้ำยามช้าลง
โดยแม่น้ำสงครามจะไหลออกสู่แม่น้ำโขง ที่ บ.ไชยบุรี ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ดังนั้นประชาชนจึงควรเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือปริมาณฝนที่จะมีในอนาคต สำหรับสถิติปริมาณฝนสูงสุดวันนี้อยู่ที่ อ.บ้านม่วง 40 มม.
สำหรับสถานการณ์น้ำสงครามเอ่อเขาท่วมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 4061 เส้นทาง บ.นาดอกไม้ ต.สามัคคีพัฒนา อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ไปยัง อ.นาทม จ.นครพนม ก็ยังทรงตัว ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 30 ซม. รถไม่สามารถสัญจรได้ และยังสร้างความเสียหายต่อพื้นที่นาข้าวอีกด้วย
สำหรับภาพรวมสถานการณ์อ่างเก็บน้ำของ จ.สกลนคร แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 3 โครงการ ประกอบด้วย เขื่อนน้ำอูน เขื่อนน้ำพุง หนองหาร ระดับน้ำอยู่ที่ 877 ลบ.ม.จากปริมาณน้ำกักเก็บ 952 ลบ.ม.หรือร้อยละ 92 เทียบจากปีที่แล้วอยู่ที่ ร้อยละ 98
อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ขนาดเล็ก 112 แห่ง ระดับน้ำอยู่ที่ 181 ลบ.ม.จากปริมาณน้ำกักเก็บ 213 ลบ.ม.หรือร้อยละ 93 เทียบจากปีที่แล้วอยู่ที่ร้อยละ 96
ด้านนายธีระ บุญนาคสีชัย ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาสกลนคร กล่าวว่า ด้วยร่องมรสุมยังคงพาดผ่าน และหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว บวกกับลมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลให้ภาคอีสานตอนบนยังคงมีฝนตกชุก ไปจนถึงวันที่ 28 ส.ค. นี้ แต่จะไม่หนักแบบพายุ เป็นฝนตามฤดูกาล
ประชาชนควรติดตามการพยากรณ์อากาศ อย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งฤดูฝนของประเทศไทยจะหมดในช่วงกลางเดือน ต.ค. โดยจะเริ่มมีลมหนาวพัดเข้าสู่ประเทศ ซึ่งจะเป็นช่วงผลัดเปลี่ยนฤดูกาล
