“รักยิ่งใหญ่” ของพ่อ ลาออกจากงานดูแลลูกป่วยพิการ ด้าน จนท.ขนอุปกรณ์ถ่ายบัตร ปชช.ถึงบ้าน

สกลนคร-รักยิ่งใหญ่ ของพ่อ ลาออกจากงาน ดูแลลูกสาววัย 16 ปี พิการ ต้องแบกถังออกซิเจนไปเติมทุกเช้า ก่อนนอนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ฯลฯ ค่าใช้จ่ายสูง ส่วนภรรยาทำงานหาเงิน สู้เพื่อลูก ด้าน จนท.ลงพื้นที่ถ่ายบัตร ปชช.ถึงบ้าน

“รักยิ่งใหญ่” ของพ่อแม่  วันที่ 26 มิ.ย. 2561  เวลา 10.00 น.  ที่บ้านเลขที่ 289 ม.9 ต.ฮางโฮง อ.เมือง จ.สกลนคร นางสาวเพ็ญยุพา แจ้ห่มเครือ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียน ภาค 4 สาขาจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย นายลาภิศ ลีทองปลัดอำเภอเมืองสกลนครฝ่ายทะเบียน  และเจ้าหน้าที่ นำชุดถ่ายบัตรเคลื่อนที่ ถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน Smart Card แก่  น้องแพร อายุ 16 ปี  ซึ่งพิการแต่กำเนิดและเป็นผู้ป่วยติดเตียง ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ และมีร่างกายอ่อนแอ โดยมีพ่อและแม่คอยดูแล ช่วยเหลือในด้านต่างๆ

พบว่าน้องแพร เป็นโรคลมชัก มีโรคประจำตัวตั้งแต่เกิด และมาแสดงอาการเมื่ออายุได้ 2 ขวบ ต้องรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นประจำ ต่อมาเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว อาการป่วยของน้องแพร หนักขึ้น มีการติดเชื้อไข้หวัดนก และปอดอักเสบ

ถึงแม้จะอาศัยอยู่ที่บ้านแต่ก็ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิต โดยเฉพาะเครื่องให้ออกซิเจน เพราะน้องแพร หายใจค่อนข้างลำบาก ขณะนอนหลับต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และต้องรับประทานอาหารทางสายยางบริเวณช่องท้อง  มีการเจาะลำคอเพื่อขับเสมหะ เป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก

นายรุ่งวิทยา จันทร์ปภาพร อายุ 49 ปี พ่อน้องแพร กล่าวว่า ตนมีลูกสาวเพียงคนเดียว ถึงจะป่วย หรือพิการ ตนก็รัก เมื่อเขาเกิดมาแล้วก็ต้องดูแลกันไป เห็นลูกเจ็บป่วย ตนผู้เป็นพ่อก็เศร้าแต่ก็ต้องอดทน โดยมีภรรยาคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกันเพื่อลูก ต่อมาเมื่อ 4 ปี ก่อน อาการของน้องแพรทรุดลง

ตนและภรรยาจึงปรึกษากันว่าต้องมีหนึ่งคนที่ต้องลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกสาวที่บ้าน น้องแพรก็ตัวโต มีน้ำหนักมาก โดยจะต้องอุ้ม ยก เพื่อดูแล ในด้านต่างๆ เปลี่ยนผ้าอ้อม การพยุงตัวอาบน้ำ การเปลี่ยนถังออกซิเจนที่มีน้ำหนักมาก

ดังนั้นตนซึ่งเป็นผู้ชาย และแข็งแรงกว่าจึงลาออกจากงานเพื่อมาดูแลลูกสาว ด้านภรรยาซึ่งมีอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ นำทัวร์ต่างๆ คอยส่งเงินมาช่วยในการดูแลรักษาลูก เฉลี่ยเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ถึงแม้จะมาก แต่ตนกับภรรยาก็จะสู้ต่อไป

น้องแพรเป็นเด็กอารมณ์ดี ร่าเริง ตนต้องคอยดูถังออกซิเจน โดยจะต้องไปเติมที่ศูนย์ทุกวัน ถัง 2 ลิตร ก็ตกวันละ 120 บาท รวมถึงโภชนาการของลูก โดยการปั่นอาหารผักผลไม้ และอื่นๆ ให้ทางสายยาง พาอาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม ดูเรื่องการหายใจ เสมหะ ความสะอาดของบาดแผล  ฯลฯ

ปัจจุบันด้วยเศรษฐกิจรายได้ลดลง  แต่ก็คิดว่าคนที่ลำบากกว่าตนก็มีจึงไม่ควรย่อท้อ  และวันนี้ก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทะเบียนทุกคนที่เดินทางมาถ่ายบัตรประชาชนให้ น้องแพร ถึงบ้าน

อย่างไรก็ดีพบว่ารถเข็ญของน้องแพร เริ่มผุพังและขึ้นสนิม ด้วยค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ข้างต้น จึงทำให้ครอบครัวเริ่มเป็นกังวล  ดังนั้นหากประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือ เยียวยา และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของน้องแพร สามารถประสานได้ที่ นายรุ่งวิทยา จันทร์ปภาพร  พ่อของน้องแพร ได้ที่เบอร์ 062-7157846

ข่าวจังหวัดสกลนคร