8 ก.พ. 65 จากเรื่องราวดีๆของ “พิมรี่พาย” แม่ค้าออนไลน์ชื่อดัง ที่ซื้อบ้านน็อคดาวน์ ราคา 240,000 บาท มอบให้กับนายตี๋ อายุ 46 ปี และนายอ้อง อายุ 43 ปี สองพี่น้องป่วยพิการทางสมอง ชาว ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย ที่ยึดอาชีพเก็บขยะขายเพื่อหาเลี้ยงแม่ คือ นางประสงค์ อายุ 68 ปี และพี่ชาย อายุ 51 ปี ซึ่งป่วยพิการสมองเช่นกัน ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
ปรากฏล่าสุดเกิดประเด็นดราม่า อ้างว่า นางมะลิ จูพันธ์ อายุ 47 ปี หลานสาวของนางประสงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ได้ขับไล่ที่นางประสงค์กับลูกๆ เพื่อหวังจะฮุบเอาบ้านที่พิมรี่พายซื้อให้มาเป็นของตัวเอง จนทำให้ทีมงานของพิมรี่พายต้องลงพื้นที่มาสุโขทัยอย่างเร่งด่วน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
นางมะลิ จูพันธ์ เปิดเผยทั้งน้ำตา ว่ารู้สึกเสียใจที่ถูกกล่าวหา คนในครอบครัวเดือดร้อนกันมาก พวกเรากลายเป็นคนไม่ดีอยากได้ของคนอื่น จนส่งผลกระทบต่ออาชีพค้าขาย ลูกค้าสั่งซื้อของน้อยลง ทั้งที่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตนคอยช่วยเหลือดูแลครอบครัวของนางประสงค์ (น้าสะใภ้) กับลูกทั้ง 3 คนมาตลอด ทั้งให้ที่ดินปลูกบ้านอยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 และแบ่งปันอาหารให้กิน ทำธุระให้ทุกอย่าง เจ็บป่วยก็พาไปหาหมอ อยู่ร่วมกันมา 10 ปี ไม่เคยเกิดปัญหาวุ่นวาย กระทั่งมีเรื่องบ้านหลังนี้เข้ามา กลับมากล่าวหาว่าตนจะฮุบเอาเป็นของตัวเอง ส่วนที่ว่านางประสงค์กับลูกๆ ยังไม่ย้ายเข้าอยู่ในบ้านหลังใหม่ที่พิมรี่พายซื้อให้ ก็เพราะพวกเขาสะดวกที่จะอยู่หลังเก่าไปก่อน ตนไม่ได้ห้ามหรือหวงเอาไว้เอง
“ที่ดินด้านหน้าที่ใช้ตั้งบ้านหลังใหม่ของนางประสงค์ เดิมทีฉันตั้งใจจะใช้ประโยชน์ และต่อเติมบ้านตัวเอง แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันกับครอบครัวก็ต้องอยู่ที่เดิม ส่วนที่ดินด้านหลังก็ยังเป็นที่อาศัยของนางประสงค์กับลูก ๆ เหมือนเดิม ฉันเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์ที่ดินของตัวเอง และ 10 ปีที่นางประสงค์มาอาศัยอยู่กับฉัน ฉันก็มีแต่ให้กับให้ คอยช่วยเหลือมาตลอด ทั้งที่ฉันกับครอบครัวก็มีชีวิตที่ลำบาก หาเช้ากินค่ำเหมือนกัน ยังไงก็ตาม ขอขอบคุณน้ำใจอันงดงามของพิมรี่พาย และขอโทษที่เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้” นางมะลิ กล่าว ขณะที่นางประสงค์ อายุ 68 ปี ก็ได้แต่ร้องไห้เสียใจ ที่นางมะลิกับครอบครัวต้องมาเดือดร้อน และถูกกล่าวหาเพราะเรื่องบ้านของตัวเอง จึงวิงวอนขอให้หยุดคำพูดให้ร้าย และอย่ามาวุ่นวายที่นี่อีกเลย
