ตำรวจภูธรภาค 7 ทลายเครือข่ายยานรก ชายแดนไทย-พม่า

นครปฐม : ตำรวจภูธรภาค 7 โชว์เจ๋ง ทลายเครือข่ายยาเสพติด ชายแดนไทย–พม่า ทองผาภูมิ–สังขละ ยึดยาไอซ์กว่า 46 กก. และยาบ้ากว่า 5 หมื่นเม็ด รวมทั้งทรัพย์สิน กว่า 5 ล้านบาท

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 7 กันยายน 2561  พล.ต.ท. กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภาค 7 พร้อมด้วย รอง ผบช.ภาค 7  และ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี   ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่    ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ  สภ.ทองผาภูมิ และ สภ.สังขละบุรียึดของกลาง ยาไอซ์ รวมกว่า  46 กิโลกรัม ยาบ้า 50,000 เม็ด  พร้อมตรวจยึดของกลาง และทรัพย์สินคดียาเสพติด ได้อีกจำนวน  5,699,403 บาท ประกอบด้วย  โทรศัพท์มือถือ  จำนวน 8 เครื่อง  รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล  2 คัน ทองรูปพรรณ  และ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร 7 เล่ม

พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภาค 7 กล่าวว่า คดีนี้ เป็นไปตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และแผนปฏิบัติการพิทักษ์ประชา 61/4 ภายใต้การปฏิบัติการ 7 ประจัญบาน

โดยที่ผ่านมาได้สั่งการให้ชุดสืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ  เฝ้าระวังและสืบสวนหาข้อมูล   เนื่องจากทราบว่า ขบวนการยาเสพติด จะใช้ช่วงเวลาที่มีฝนตกหนักในระยะนี้   ลักลอบขนยาเสพติด

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา   สามารถจับกุมผู้ต้องหา คือ  นาย สุทัศน์  ชัยวัฒนาวุธ   อายุ 36 ปี    ได้ที่ อำเภอทองผาภูมิ   พร้อมของกลางยาไอซ์ 15 ก้อน น้ำหนักรวม 15 กิโลกรัม  ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีก้า ทะเบียน ฒบ 3061 กรุงเทพมหานคร จึงได้ทำการจับกุมตรวจยึดของกลาง  ก่อนนำตัวมาสอบสวนขยายผล

จนเมื่อวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา   สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่ม อีก 5 ราย คือ นาย วุฒิชัย ปิ่นเวหา  อายุ 45 ปี, นางสาวสมหมาย สิงหา  อายุ 40  ปี, นายพีระยุทธ  ปิ่นเวหา  อายุ  47  ปี, นางดวงมณี   ตั้งเคียน อายุ 54 ปี  และนางกิ่งแก้ว  ทักแก้ว อาย 48 ปี    โดยได้ทำการจับกุมและตรวจยึดของกลางตามบัญชีกลาง รวมมูลค่า 5,699,403 บาท

จากนั้น  ได้ทำการขยายผลจับกุมรายที่ 2 และ 3  ได้ที่ บริเวณจุดตรวจร่วมสะพานรันตรี หมู่ 1 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี   ได้ผู้ต้องหา คือ นายอัมพร   ณะสติ อายุ  77 ปี   พร้อมของกลางยาไอซ์  น้ำหนักรวม 20.70 กิโลกรัม  พร้อมรถยนต์เก๋ง 1 คัน และได้ขยายผลต่อเนื่อง จนสามารถจับกุม นายล้อ หรือ แซโก  ไม่ทราบนามสกุล อายุ 21 ปี ชาวเมียนมาร์ ได้พร้อมของกลางยาไอซ์อีกกว่า 10 กิโลกรัม   และยาบ้าอีกจำนวน 50,000 เม็ด

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า  ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวเมียนมาร์ ให้ขับรถขนยาเสพติดไปจอดไว้ในจุดที่กำหนด  จากนั้นจะมีคนมาขับรถคันดังกล่าวต่อไปอีกทอด   โดยไม่รู้ว่า ยาเสพติดจะถูกส่งไปที่ใด   โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 50,000 บาท        เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฯ  จะได้เร่งสืบสวนขยายผลต่อ      เพื่อติดตามจับกุมขบวนการยาเสพติดรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป

ข่าว-ภาพ : พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ / ขนิษฐา ชื่นยินดี : นครปฐม