พังงา-บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ “ถ้ำน้ำผุด”เตรียมประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวง ร.10
ที่ศาลากลางจังหวัดพังงา นายชาญศักดิ์ ถวิล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดทำน้ำอภิเษกของจังหวัดพังงา เพื่อนำขึ้นทูลเกล้า ฯ เป็นน้ำสรงอภิเษก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 โดยมี พระเทพปัญญาโมลี รองเจ้าคณะภาค 17 และพระประสาธน์สารโสภณ เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต-พังงา-กระบี่-ระนอง(ธรรมยุติ) พร้อมคณะกรรมการอำนวยการจัดทำน้ำอภิเษกของจังหวัดพังงา เข้าร่วม โดยจังหวัดพังงากำหนดใช้แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1 แห่ง จากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ถ้ำน้ำผุด หมู่ที่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา ซึ่งเคยใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทูลเกล้าฯ เพื่อถวายเป็นน้ำสรงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชามายุครบ 6 รอบ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 และ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลฉลองพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2554
สำหรับในครั้งนี้ จะมีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ในวันที่ 6 เม.ย. 62 เวลา 11.52 น. ถึง 12.38 น. จากนั้นจะนำไปประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ที่วัดประชุมโยธี (พระอารามหลวง) วันที่ 8 เม.ย. 62 เวลา 12.00 น. และวันที่ 9 เม.ย. 62 เวลา 12.00 น. จะประกอบพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนพิธี ทางจังหวัดพังงาจะดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เรียบร้อย ทำความสะอาดแหล่งน้ำและตกแต่งสถานที่ให้สวยงามสมพระเกียรติ กำหนดรายละเอียดภาชนะ สถานที่ บุคลากร พิธีกรรม และพราหมณ์ผู้ทำพิธีที่ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในวรรณะพราหมณ์โดยกำเนิด เพื่อให้ถูกต้องครบถ้วนตามพระราชประเพณี
“ถ้ำน้ำผุด” บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดพังงา อยู่ในถ้ำเล็กๆด้านหลังศาลเจ้าบุนเท๋าก๋ง ม.3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา น้ำในบ่อจะผุดออกมาไม่เป็นเวลา บางวันผุด 1-3 ครั้ง บางครั้งเป็นอาทิตย์ก็ไม่ผุดขึ้นมา มีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า ในอดีตนั้นก่อนที่น้ำจะผุดจะมีเสียงดังจนดินสะเทือนแล้วมีน้ำไหลเอ่อล้นออกมา ปัจจุบันน้ำยังคงผุดอยู่ แต่มีปริมาณน้อยลงและไม่มีเสียงดัง ชาวบ้านเชื่อกันว่าคนที่มีบุญเท่านั้นจะได้มาเห็นขณะที่น้ำกำลังผุด ถ้าคนไม่มีบุญก็จะไม่ผุดออกมาให้เห็น นอกจากนั้นในถ้ำจะมีตะพาบน้ำขนาดใหญ่อาศัยอยู่1 ตัว เล่ากันว่ามีอายุไม่น้อยกว่า 100 ปี และนานๆครั้งจึงจะออกมาให้เห็น มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาว่า นานมาแล้วมีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้เดินทางมาถึงตำบลถ้ำน้ำผุดเห็นมีป่าเขาเงียบสงบเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงปักกลด ณ ที่นั้น ในขณะที่นั่งวิปัสสนาอยู่นั้นได้ยินเสียงดังจนแผ่นดินสั่นสะเทือน เป็นเสียงที่ดังมาจากโพรงหินในภูเขาพร้อมกับมีน้ำไหลออกมามากมาย แต่พระรูปนั้นก็ยังคงนั่งบำเพ็ญเพียรอยู่ที่เดิม จนถึงกลางคืนดึกสงัดมีร่างของชายแก่ชาวจีนคนหนึ่ง นุ่งขาวห่มขาวถือไม้เท้า ผมหนวดเครายาวเดินออกมาจากถ้ำตรงมาหาพระรูปนั้น แล้วบอกว่าอย่ามาบำเพ็ญเพียรที่นี้เลย เพราะจะหาความสงบไม่ได้ อีกแล้ว ต่อจากนี้ไปที่แห่งนี้จะเกิดสิ่งมหัศจรรย์ คือ จะมีเสียงดังจากใต้ดินแล้วมีน้ำผุดออกมาเป็นระยะๆ ขอให้ไปหาที่สงบอื่นเถิด พระภิกษุนั้นรับคำ ชายชรานั้นได้ขอร้องให้พระภิกษุ ช่วยบอกชาวบ้านให้สร้างศาลเจ้าขึ้นบูชาแล้วร่างนั้นก็หายไป ซึ่งปัจจุบันเป็นศาลเจ้าบุนเท๋าก๋ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในเมืองพังงา
