นายสุพงษวินัย ชูยก นายอำเภอท้ายเหมือง พร้อมด้วย นางวิไลวรรณ พลจร ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองท้ายเหมือง นส.ประไพ พุกงาม สถิติจังหวัดพังงา นายชาติ คงรื่น เกษตรอำเภอท้ายเหมือง นายโสภณ เคี่ยมการ ผอ.สวท.พังงา นำชาวบ้านในพื้นที่นิคมสร้างตนเองกว่า60คน ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวไร่ดอกข่า ในพื้นที่ 13 ไร่ ในแปลงยางพาราปลูกใหม่ของนายศักดิ์ชัย-นางฐิติมา สุคนธชาติ ข้าราชการครูบำนาญ ที่มอบให้ชุมชนใช้เป็นแปลงสำหรับปลูกข้าวไร่ ไว้บริโภค และอนุรักษ์สายพันธุ์ข้าวประจำถิ่น ให้อยู่คู่ชาวจังหวัดพังงาตลอดไป
นายอำเภอท้ายเหมือง กล่าวว่า เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมการกินการอยู่ของชุมชนและการช่วยกันเก็บรักษาพันธุ์ข่าวไร่ดอกข่า ซึ่งเป็นสายพันธุ์ข้าวไร่ชื่อดังของจังหวัดพังงาเอาไว้ โดยในพื้นที่นี้เริ่มปลูกกันเมื่อปี 2558 และปีนี้ชุมชนในตำบลทุ่งมะพร้าวได้ร่วมกันปลูกรวม 3 แปลง ในเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ผลดีที่เกิดขึ้นคือ การได้รวมกลุ่มของชาวบ้านซึ่งมีทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมมาร่วมปลูกข้าวด้วยกัน ส่วนผลผลิตก็มาแบ่งแจกจ่ายกันไป
ข่าวน่าสนใจ:
- โจรหนุ่มวิ่งราวร้านทองกลางห้างดัง ฉกสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท หลบหนีลอยนวล
- หมูเป็นขึ้นราคาหน้าฟาร์มเดือดร้อนทั้งคนกินและแม่ค้าบางรายต้องหยุดขายทิ้งเขียงไว้ให้ร้างไว้ก่อน
- นครพนม คาร์แคร์รับทรัพย์หลังสงกรานต์ ยอดพุ่งเท่าตัว ต้องจ้างคนงานเพิ่ม
- วัดมหาวงษ์ปากน้ำจัดงานสงกรานต์และร่วมอุทิศบุญกุศลให้กับอดีตเจ้าอาวาส
นายชาติ คงรื่น เกษตรอำเภอท้ายเหมือง กล่าวว่า“ข้าวดอกข่า” เป็นข้าวไร่พันธุ์พื้นเมืองที่มีความต้านทานต่อโรค เมล็ดยาว สีของเมล็ดข้าวสารมีสีน้ำตาลแดงอมม่วง เมื่อหุงสุกจะมีกลิ่นหอม คล้ายกลิ่นใบเตย รสชาติอร่อย ข้าวไม่แข็ง หุงขึ้นหม้อ ซึ่งเกษตรกรสามารถนำผลผลิตมาจำหน่ายได้ถึงกิโลกรัมละ 60-70 บาท ส่วนข้าวขายได้ตันละกว่า30,000 บาท ที่ผ่านมานั้นผลผลิตยังมีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดภายในจังหวัด โดยเริ่มปลูกในพื้นที่ตำบลบางทอง อำเภอท้ายเหมือง ซึ่งเป็นการปลูกแซมในแปลงปลูกยางพารา หรือแปลงปลูกปาล์ม ในระยะแรกปลูก 3 ปีแรก และต่อมาได้ขยายปลูกในพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดพังงา และล่าสุดเมื่อปี 2560 ทางศูนย์วิจัยข้าวจังหวัดกระบี่ก็ได้รับรองสายพันธุ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วในชื่อ “ข้าวไร่ดอกข่า 50”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: