X

ผู้ว่าย้ำไม่ล็อกดาวน์จังหวัดพังงา สั่งตั้งด่านตรวจเข้ม 5 อำเภอและเตรียมโรงพยาบาลสนามกว่า 200 เตียง

พังงา-ยังสีขาว…ผู้ว่าย้ำไม่ล็อกดาวน์จังหวัด ตั้งด่านตรวจเข้ม 5 อำเภอเตรียมโรงพยาบาลสนามกว่า 200 เตียง

วันที่ 7 มกราคม 2564 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพังงามเพื่อติดตามประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดพังงา ซึ่งล่าสุดนั้นในพื้นที่จังหวัดพังงายังไม่มีรายงานการพบผู้ป่วย และยังคงกำหนดมาตรการคุมเข้มทุกพื้นที่ ทั้งการตั้งด่านตรวจคัดกรองประชาชนที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดพังงาในทุกอำเภอที่เป็นรอยต่อกับจังหวัดข้างเคียง การตรวจสแกนคนในชุมชน หมู่บ้าน ตรวจเข้มแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการทุกพื้นที่ การเฝ้าระวังทุกสถานที่เสี่ยงที่อาจจะใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบลำเลียงแรงงานเถื่อนเข้าพื้นที่ หรือสถานที่จุดรวมตัวของคนจำนวนมาก พร้อมกับพิจารณาสถานที่ใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุ กรณีมีการระบาด ซึ่งได้กำหนดโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ฐานทัพเรือพังงาและสนามกีฬา อบจ.พังงารวมกว่า 200 เตียง

ในที่ประชุมได้กำชับให้ทุกอำเภอเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยงแรงงานต่างด้าว หรือการประกอบพิธีทางศาสนา โดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย เตรียมแผนเผชิญเหตุรองรับความเสี่ยงตามกรอบแผนการบริหารจัดการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ทุกส่วนราชการและทุกหน่วยงาน มีการคัดกรองบุคคลที่เข้ามาติดต่อราชการ จัดตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิ จุดบริการเจลล้างมือ คัดกรองก่อนเข้าพื้นที่รับบริการ เพื่อเป็นแบบอย่าง ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคนต้องใช้แอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” กำหนดกลุ่มประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นให้ควรใช้ด้วย ควบคู่ไปกับการให้ อสม. นายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ ปฏิบัติการเคาะประตูบ้านตรวจสแกนตามมาตรการ อีกทั้งให้ทุกสถานศึกษาทำตามมาตรการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด ขอความร่วมมือผู้ปกครองไม่ให้นำเด็กนักเรียนหรือบุตรหลานของตนเองเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงนี้  เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในโรงเรียน และเพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคในพื้นที่จังหวัดพังงา เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมผู้ว่าราชการฯได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมจุดตรวจบ้านท่านุ่น อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา เปิดเผยว่า วันนี้เรายังไม่พบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ แต่เราต้องปรับตัวใหม่ให้เข้าสถานการณ์ ใครเข้ามาในพื้นที่ต้องมีการประเมินเป็นรายบุคคล ไม่ใช่ไปเหมารวมว่าถ้ามาจากสีแดงแล้วไม่ให้เข้าพื้นที่ เพราะไม่ใช่เป็นการชัตดาวน์จังหวัดเหมือนกับการแพร่ระบาดระลอกแรกซึ่งได้ส่งผลลบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างมาก ทุกคนที่ที่จำเป็นต้องเขามานั้นต้องเข้าตามมาตรการของจังหวัด โดยเฉพาะการใช้แอปพลิเคชันหมอชนะและไทยชนะ

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

อโนทัย งานดี

อโนทัย งานดี

นักข่าวตัวเล็กๆในเมืองแห่งความสุข