จุรินทร์ติดตามประกันรายได้เกษตรกรที่บ้านเกิด กองเชียร์ตรึมชูป้ายให้เป็นนายก

พังงา-จุรินทร์ติดตามประกันรายได้เกษตรกรที่บ้านเกิดกองเชียร์ตรึมชูป้ายให้เป็นนายก เล็งเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรด้วยช่องทางการขายออนไลน์

วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอําเภอตะกั่วป่า จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดําเนินงานโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง และสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562/2563 โดยมีนายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยนางกันตวรรณ ตันเถียร สส.พังงา นายบำรุง ปิยนามวาณิช นายก อบจ.พังงา นำทีมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และมีแฟนคลับจำนวนมากมารอชูป้ายเชียร์และขอบคุณที่ผลักดันโครงการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร และมีป้ายหนึ่งเขียนว่า “คราวหน้าเป็นนายกเลยนะค้า”ซึ่งสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะกันทั่วหน้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวว่า  การประกันรายได้ไม่ใช่ประกันราคา เช่นยางประกันรายได้ ไม่ใช่ว่ายางจะต้องราคากิโลกรัมละ 40, 50 ,60 ราคาต้องเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่สามารถสั่งขึ้นสั่งลงได้ถ้าคนต้องการมากราคาก็สูง ไม่เช่นนั้นจะผิดหลักองค์การค้าโลกราคาต้องเป็นไปตามกลไกของตลาด สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ประกัน คือ ประกันรายได้เพราะสถานการณ์ในอนาคตหลายตัวมีปัญหา ถ้าน้ำมันราคาลง ราคาถูก คนจะหันไปใช้ยางเทียมมากขึ้น เพราะยางเทียมทำจากน้ำมัน น้ำมันถูกยางเทียมก็จะถูก บ้านเรายาง 100 กิโลกรัมเอาไปทำยางรถยนตร์ 80 กิโลกรัมถ้าเศรษฐกิจดี รถยนต์ขายดี ยางรถยนต์ก็จะขายดีไปด้วย แต่ถ้าราคาน้ำมันตก ส่วนผสมถ้าทำจากยางพาราแพงก็จะนำยางเทียมไปผสมมากขึ้น เพราะยางเทียมราคาถูกมากกว่า

จึงเป็นที่มาของพรรคคิดว่าต่อไปนี้ถ้าเรามีโอกาสมาเป็นรัฐบาลเราจะประกันรายได้ซึ่งไม่ผิดหลักองค์การการค้าโลก ถ้าวันไหนราคายางตกกว่าราคาที่ประกัน 60 บาทจะมีช่องว่างระหว่าง 60 บาทกับราคาในตลาด วันนี้ยางเฉลี่ยกิโลกรัมละประมาณ 40 บาท รัฐบาลจะประกันราคาที่ 60 บาทจะมีส่วนต่างอยู่ 20 บาทต่อ 1 กิโลกรัม เมื่อมีนโยบายประกันรายได้ไม่งั้นจะมีรายได้ทางเดียวจากมีการนำยางแผ่นได้กิโลกรัมละ 40 บาท แต่ถ้ามีประกันรายได้พี่น้องจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่งเป็นสองทางทางที่หนึ่งเอายางไปขายที่ร้านได้กิโลกรัมละ 40 บาท ทางที่สองพี่น้องจะได้ส่วนต่างอีกกิโลกรัมละ 20 บาท มาใส่กระเป๋าขวา เป็น 60 บาทตามรายได้ที่ประกัน ซึ่งเป็นนโยบายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันทางเศรษฐกิจและช่วยเหลือพี่น้องชาวเกษตรกรได้จริงแม้จะไม่สามารถทำให้ยางกิโลกรัมละ 70 บาท 80 บาท ซึ่งล่าสุดได้สั่งการให้องค์การสวนยางให้ไปคิดการให้ทุนสงเคราะห์สวนยางไร่ละ 16,000 บาท โดยมีแนวคิดจะให้ลดพื้นที่ปลูกยางพาราลง โดยการเพิ่มทุนสงเคราะห์ให้มากขึ้นเมื่อมีการโค่นยางพาราแล้วเปลี่ยนเป็นปลูกแบบผสมกับพืชอื่น หรือเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่น

สำหรับผลไม้ต้องมีมาตรการอื่นเช่นช่วยในการดำเนินการช่วยเหลือให้พี่น้องที่ปลูกผลไม้ที่จะไม่เก็บไว้นานและไม่ทำให้ราคาตก ใครก็ตามที่รวบรวมและกระจายในตลาดให้ 3 บาทจะได้ไม่กองอยู่ที่เกษตรกรจะทำให้ราคาตกมา ให้ส่งออกให้กิโลกรัมละ 5 บาท ถ้าสหกรณ์เกษตรกรรวมเองขนของออกเองได้กิโลกรัมละ 5 บาท กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน จะช่วยทำกล่องถ้าพี่น้องต้องการก็ประสานพาณิชย์จังหวัดกับเกษตรจังหวัดบอกให้เกษตรกรถ้าต้องการใส่กล่องจะสนับสนุนให้กล่องฟรีพร้อมจะเสริมศักยภาพในเรื่องของการขาย โดยให้พาณิชย์จังหวัดจัดการอบรมการค้าออนไลน์หรือใครที่เข้าออนไลน์อยู่แล้วแต่ยังไม่เก่งยังไม่ตกผลึกมาอบรมให้เข้มข้นจนกระทั่งทำเป็น ซึ่งจะนำคนที่ประสบความสำเร็จเป็นชาวบ้านเหมือนเรามาสอนให้ด้วย ความต้องการสินค้าต่างๆจากประเทศไทยในตลาดโลกยังมีอีกมากแม้ว่าจะมีวิกฤติโควิดแต่เราต้องปรับเป็นช่องทางออนไลน์