พังงา-ชาวบ้านโวย…ตัดต้นยางอายุกว่า 100 ปี 11 ต้นริมถนนสายพังงา-ภูเก็ต ด้านกรมป่าไม้สยบดราม่า บอกอนุญาตให้ตัดออก ป้องกันอันตรายให้ผู้ใช้รถใช้ถนน
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 62 นายสมชาย นุชนานนท์เทพ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดพังงา นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณโค้งบ้านต้นแซะ ริมถนนเพชรเกษมสาย พังงา –ภูเก็ต ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา หลังจากแขวงทางหลวงภูเก็ตได้ตัดต้นยางมันหมูโบราณริมถนนจำนวน 11 ต้น ซึ่งได้สร้างกระแสดราม่าพร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานาบนสื่อโซเชียลจากกลุ่มประชาชนที่รู้สึกเสียดายต้นไม้ที่มีอายุกว่า 100 ปี โดยจากการตัดต้นไม้ดังกล่าวในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ชี้แจงว่าได้มีการทำหนังสือจากแขวงทางหลวงภูเก็ต ถึงสำนักงานป่าไม้ในการขออนุญาตตัดต้นยางมันหมูจำนวน 11 ต้น เนื่องจากต้นไม้มีสภาพเปื่อยไส้ในกลวงเป็นโพรง กิ่งผุ หวั่นเกิดอันตรายกับผู้ใช้รถผ่านเส้นทาง โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกจะมีลมกระโชกแรงบ่อยครั้ง ทำให้กิ่งผุพัง ถ้าหักลงมาใส่รถประชาชน รถนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ หรือบ้านเรือนของชาวบ้านจะทำให้เกิดความเสียหายได้หากโชคร้ายเกิดหักโค่นใส่เด็กนักเรียน นักท่องเที่ยว หรือผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่อาจจะประเมินค่าได้ และสร้างชื่อเสียให้กับจังหวัดพังงา และหลังจากได้รับการอนุญาต เจ้าหน้าที่ของ อ.อ.ป.ได้ดำเนินการตัดต้นไม้ทั้งหมดทันที จนทำให้เกิดความไม่พอใจให้กับประชาชนบางกลุ่ม ส่วนไม้ที่ตัดนั้นทาง อ.อ.ป.จะนำไปเก็บไว้เพื่อดำเนินการตามระเบียบราชการต่อไป
นายสมชาย นุชนานนท์เทพ เปิดเผยว่า ทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 จังหวัดกระบี่ ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมป่าไม้ ให้มาตรวจสอบต้นไม้ที่ได้รับอนุญาตในการตัด โดยทางแขวงทางหลวงภูเก็ตได้มีการขออนุญาตจากกรมป่าไม้ผ่านสำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 12 จังหวัดกระบี่พร้อมส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พร้อมทั้งมีการทำประชาพิจารณ์จากประชาชนในพื้นที่จนได้รับความเห็นชอบว่าเหมาะสมที่จะนำต้นไม้ดังกล่าวออกไป เนื่องจากถ้าไม่มีการนำต้นไม้ดังกล่าวออกไปก็จะเกิดอันตรายต่อผู้ขับรถที่สัญจรไปมาระหว่างเส้นจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต โดยต่อจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกับทางชาวบ้าน ว่าก่อนหน้านี้ได้มีการทำประชาพิจารณ์โดยได้รับมอบหมายจากผู้ได้รับอนุญาตคือแขวงการทางภูเก็ต ในการทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้านในพื้นที่แล้ว จนมีความเห็นชอบในส่วนนี้แล้วทางกรมป่าไม้จึงได้ออกหนังสืออนุญาตในการตัดต้นไม้ดังกล่าวจำนวน 11 ต้น โดยเมื่อตรวจสอบจะเห็นได้ว่าต้นไม้ที่มีอายุกว่า 100 ปี มีสภาพ ผุ กลวง เป็นโพรง และกิ่งก้านต่างๆ ก็มีสภาพผุโดยแต่ละต้นจะเป็นโพรงจากใต้โคน ที่ถูกทำลายจะเนื้อเยื่อในต้นไม้ในสวนกิ่งก้านก็จะมีเถาวัลย์เกาะทำให้ผุตั้งแต่บนยอดลงมา
โดยก่อนหน้านี้ทางแขวงการทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการทำหนังสือถึงกรมป่าไม้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2561 ในการขออนุญาตตัดต้นไม้ดังกล่าวเนื่องจากช่วงที่ผ่านมามีสภาพฝนตกและลมกระโชกแรงจนทำให้กิ่งไม้ตกลงมาบนถนนที่รถสัญจรผ่านไปมาจน เกิดอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนซึ่งทางแขวงการทางก็ได้มีหนังสือเร่งรัดมาหลายครั้งจนมีการทำทำประชาพิจารณ์จากชาวบ้าน ซึ่งถ้าไม่มีการตัดกิ่งไม้ที่ผุพังเมื่อเกิดเหตุทางกรมป่าไม้ได้ตระหนักถึงประชาชนในพื้นที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งความปลอดภัยและการอนุรักษ์ซึ่งต้องมอง 2 มุม ซึ่งหากต้นไม้กิ่งก้านร่วงหล่นลงมาก็จะทำให้ถูกรถเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนจนเป็นคดีได้ โดยหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางแขวงการทางก็จะเชิญกรมป่าไม้มาร่วมเป็น จำเลย ในคดีด้วย ซึ่งเพื่อความปลอดภัยจึงได้ตัดต้นไม้ออกจากริมถนนดังกล่าว
