เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2564 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) พ.อ.สมหมาย บุษบา รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 28 ค่ายศรีสองรัก รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.เลย และนายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอภูกระดึงกว่า 300 นาย เข้าตรวจยึดคืนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยส้มและป่าภูผาแดง ท้องที่ บ้านห้วยส้มใต้ ตำบลผานกเค้า อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ที่ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกปลูกยางพาราและต้นปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 512-2-59 ไร่ พร้อมเปิดยุทธการ “ทวงคืนผืนป่า เยียวยาแผ่นดิน” และมอบนโยบายการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกป่าไม้ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องด้วย
นายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งมีฯพลฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีนโยบายและกรอบมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน การอยู่อาศัยและทำกิน ในพื้นที่ของรัฐ (ทุกประเภท) สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) กรมป่าไม้ จึงได้มีคำสั่งให้หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ผาขาว ดำเนินการสำรวจการถือครองที่ดินอยู่อาศัย ทำกินของราษฎรในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยส้มและป่าภูผาแดง ท้องที่ บ้านห้วยส้มใต้ ตำบลผานกเค้า อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เพื่อประกอบการพิจารณาผ่อนผันอยู่อาศัย ทำกิน ในพื้นที่ป่าตามมติ ครม. 26 พฤศจิกายน 2561
ปรากฏว่ามีแปลงยางพาราขนาดใหญ่และปาล์มน้ำมันที่ยังไม่มีผู้มาแสดงตัวเป็นผู้ถือครอง ทั้งสิ้น 512-2-59 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) และประสานกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกั[ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กก.3 บก.ปทส.) เพื่อร่วมทำการสืบสวนและแฝงตัวในพื้นที่ จนปรากฏชัดว่า มีการบุกรุกถือครองใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนายทุนจากทางภาคใต้ มูลค่าความเสียหาย 34,975,357.2 บาท
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะใช้ยุทธการทวงคืนผืนป่า เยียวยาแผ่นดิน ที่จังหวัดเลย เป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิบัติการเช่นเดียวกันนี้ทั่วประเทศ โดยประสานกำลังกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นไปที่กลุ่มนายทุน ส่วนที่ดินของชาวบ้านที่พิสูจน์สิทธิ์แล้วว่า ทำกินมาก่อนที่จะมีการประกาศเขตป่าสงวนก็จะไม่ดำเนินคดี ปฏับัติการครั้งนี้ ถือเป็นการตัดวงจรต้นตอการบุกรุกป่า เพราะชาวบ้านบางส่วนขายที่ดินให้นายทุนที่มากว้านซื้อ แล้วก็หาที่บุกรุกป่าอื่นๆ ต่อไป ซึ่งที่ดินที่ตรวจยึดคืนครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มนายทุนอย่างเด็ดขาดแล้ว
