ขอนแก่น – แก๊งฆ่าหั่นศพขึ้นศาล “เอิร์น–แจ้–วศิน” เบิกความ 3 ปากสุดท้าย เปรี้ยวยืดอกรับผิดคนเดียว ด้านทนายเผยค่าเสียหายให้ครอบครัวแอ๋มไม่ถึง 10 ล้านบาท
ศาลจังหวัดขอนแก่น ได้มีการเบิกตัว น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว พร้อมพวก ประกอบด้วย น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือแจ้ และนายวศิน นามพรม หรือ นิว จำเลยในคดีร่วมกันฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม พนักงานสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น มาเข้าสู่กระบวนการสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย
ซึ่งเหลือจำเลยที่ขึ้นเบิกความ 3 ปาก ประกอบด้วย น.ส.เอิร์น น.ส.แจ้ และ นายวศิน หลังจากที่ เมื่อวานนี้ได้มีการสืบพยานจำเลยไปแล้ว 2 ปาก คือ น.ส.เปรี้ยว และ น.ส.เบ๊นซ์ ที่เข้าเบิกความเป็นคนแรก ต่อด้วย น.ส.เปรี้ยว โดยยังคงยืนยันคำให้การว่า เหตุฆาตกรรมดังกล่าวเป็นการพลั้งมือฆ่า โดยที่ตนเองเป็นคนลงมือเพียงคนเดียว
ด้านนายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความฝ่ายจำเลย พร้อมทีมทนายความ เปิดเผยว่า ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เสนอไปตามกระบวนการ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น จำเลยไม่ได้มีการไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เกิดจากการพลั้งมือ โดยอุปกรณ์ที่ใช้ในการอำพรางศพของผู้ตายทั้งหมดก็ได้ซื้อหลังจากที่แน่ใจว่าผู้ตายได้เสียชีวิตแล้ว ไม่ใช่การตระเตรียมไว้ล่วงหน้า แต่ยอมรับว่า ทำร้ายจนพลั้งมือไปจนถึงตาย
โดย น.ส.เปรี้ยวยอมรับอำพรางศพ น.ส.แจ้ยอมรับว่าเสพยาเสพติด กับ หั่นศพ ซึ่งในข้อหาร่วม กันปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพนั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ให้การยอมรับว่าร่วมกันกระทำจริง ยกเว้น น.ส.เบ๊นซ์ ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่นำโทรศัพท์ของผู้ตายไปขาย มีเพียงข้อหารับของโจรเท่านั้น อย่างไรก็ตามในคดีนี้ไม่ได้สู้คดีเพื่อให้เขาหลุดลอดออกมาได้ แต่โทษหนักขอให้เป็นเบาลง
นายบุญยง กล่าวอีกว่า ด้านการเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งที่ทางโจทก์เรียกร้องเป็นเงิน จำนวน 10 ล้าน ก็จะต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการ แต่มองว่าความเสียหายไม่น่าจะถึงขนาดนั้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลที่จะเป็นคนตัดสินว่า สมควรที่จะจ่ายค่าเสียหายเท่าไหร่
ขณะที่นายนภดล สีดาทัน ทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการสืบพยานจำเลยนัดที่สอง โดยจำเลยยังสู้ในประเด็นเดิมคือ ทำร้ายร่างกายแต่พลั้งมือทำให้ น.ส.แอ๋ม ถึงตาย โดยจำเลยที่ชื่อ น.ส.เปรี้ยว น.ส.เอิร์น และ น.ส. แจ้ กล่าวว่าได้มีส่วนร่วมทำให้ น.ส.แอ๋ม ตายจริง แต่ไม่ได้ไตร่ตรอง ส่วนนายวศินบอกว่า ไม่มีส่วนทำให้ตายเพราะขับรถอย่างเดียว แต่มีส่วนร่วมผ่าศพและ ซ่อนเร้นศพ สรุปแล้วคดีนี้สู้กันหลายประเด็น พยานเอกสารมากกว่า 500 หน้า
ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ศาลจะให้คู่ความทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลย แถลงปิดคดีภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยศาลจะใช้เวลาในการตรวจสำนวนวินิจฉัย และนัดพิพากษาคดีในวันที่ 29 มิ.ย.2561
