ธนาคารแห่งประเทศไทยยืนยันเศรษฐกิจการเงินภาคอีสาน ช่วงไตรมาสแรกปี 62 ขยาย ตัวได้ต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาคเอกชน และสินค้าเกษตรที่ขยายตัวดี
นายประสาท สมจิตรนึก ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แถลงข่าวถึงภาวะเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ว่า มีการขยายตัวต่อเนื่องตามการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะการใช้จ่ายสินค้าในชีวิตประจำวันที่ขยายตัวดีทุกหมวด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ของใช้ในครัวเรือน ของใช้ส่วนบุคคล ขนมขบเคี้ยว อาหารและเครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และบุหรี่
ที่เป็นเช่นนี้เพราะปัจจัยสนับสนุนทั้งรายได้ภาคเกษตรและนอกภาคเกษตรที่ขยายตัว ที่เห็นได้ชัดเจนคือ ผลผลิตอ้อยโรงงานและมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากอ้อยโรงงานเปิดหีบเร็วกว่าปีก่อน และมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น รวมทั้งมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ และการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวสูงจากรายจ่ายประจำเป็นสำคัญ
ด้านการค้าชายแดนในไตรมาสแรกนี้ พบว่า การส่งออกขยายตัวดีโดยเฉพาะสินค้าประเภทผลไม้ ไปยังเวียดนาม จีนตอนใต้ และกัมพูชา
ในส่วนของการผลิตภาคอุตสาหกรรม พบว่า หดตัวเล็กน้อยตามการส่งออกที่ลดลง ส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวชะลอลง ตามการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตเพื่อการส่งออก
ส่วนภาพรวมของเสถียรภาพเศรษฐกิจ พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงจากราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก จากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สำหรับอัตราการว่างงานทรงตัวจากไตรมาสก่อน พบว่า การจ้างงานภาคเกษตรกรรมลดลง ขณะที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมมีอัตราเพิ่มขึ้น
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไป มีปัจจัยสนับสนุนจากที่ภาครัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และการเจรจายุติสงครามทางการค้าของสหรัฐและจีนมีความคืบหน้าต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเอเชียและประเทศไทยต่อไป แต่ทั้งนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง ได้แก่ ความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ผลกระทบจากภัยแล้งที่อาจจะรุนแรงและยาวนานกว่าที่คาด แนวโน้มของเศรษฐกิจและการค้าโลกที่อาจชะลอตัวมากกว่าที่คาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
