X

เปิดภาพเมรุ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” โทนขาว เรียบง่าย ตามพินัยกรรม

ขอนแก่น – ระดมช่างชั้นครูเนรมิตเมรุหลวงพ่อคูณ  รูปนกหัสดีลิงค์ตามแบบวัฒนธรรมอิสานโบราณ

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้กำหนดพิธีพระราชทานเพลิงพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ    ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมาว่าอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้  รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการออกแบบเมรุลอยว่า โจทย์ที่ได้รับคือ เรียบง่ายแต่สมเกียรติ หลวงพ่อคูณเป็นพระเกจิที่มีชื่อเสียง  จึงได้ศึกษาการจัดพิธีศพของพระที่มีสมณศักดิ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยก่อนจะออกแบบก่อสร้างเป็นฐาน 3 ชั้น  ส่วนบนสุดสร้างเป็นรูปนกหัสดีลิงค์รองรับบุษบกบรรจุสรีระสังขารของหลวงพ่อ  ไม่ใช้โกศ  เพื่อให้เป็นไปตามพินัยกรรมที่หลวงพ่อระบุไว้

สำหรับตัวงานจะเป็นสีขาวทั้งหมด  ยกเว้นส่วนบนของยอดฉัตรนกหัสดีลิงค์จะเป็นสีทอง  ความสูงถึงยอดบุษบกจะสูงถึง 22 เมตร  ที่สำคัญคือเป็นแบบนกหัสดีลิงค์ที่ไม่เคยมีมาก่อนคือจะเป็นสีขาวทั้งตัว เพื่อสะท้อนความเรียบง่าย สง่างาม ตามความตั้งในของหลวงพ่อ   โดยทั่วไปงานออกแบบนี้ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากวัดร่องขุ่นของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์  ลวดลายต่างๆ นำเอาลายอีสานมาประยุกต์โดยมีแบบมาจากลายของพระธาตุพนม  หรือ ลายเชี่ยนหมากโบราณ  ซึ่งความยากของการออกแบบครั้งนี้คือ ทุกอย่างต้องเป็นสีขาวทั้งหมด  แม้แต่พญานาคประจำหัวเสาทั้ง 8 ตัว หรือสัตว์หิมพานต์ที่นำมาประดับเมรุก็จะเป็นสีขาวเช่นกัน  การออกแบบให้ดูมีมิติจึงมีความยาก การแก้ปัญหางานนี้คือ ทำลวดลายให้ดูลึกและมีมิติที่ทับซ้อนกัน  เมื่อตัวนกหัสดีลิงค์อยู่ในที่มีแสงสว่างมากก็จะเกิดแสงเงาที่ชัดเจน  เมื่อเข้ามาในงานศพจะเห็นว่าทุกอย่างจะถูกออกแบบให้มีสีขาวทั้งหมด  ทั้งเมรุ ต้นไม้ หรือ เต็นท์ในงาน  แม้แต่ผู้มาร่วมงานก็จะต้องสวมชุดขาว  เพื่อจำลองภาพในสวรรค์

สำหรับนกหัสดีลิงค์  เป็นนกใหญ่ชนิดหนึ่งในเทวนิยาย  อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ ตัวเป็นนก หัวเป็นช้าง  ทางล้านนาเชื่อกันว่า นกหัสดีลิงค์จะคาบเอาร่างของผู้วายชนม์ไปยังแดนสวรรค์แห่งป่าหิมพานต์  ในอดีตนิยมสร้างเมรุนกหัสดีลิงค์ เพื่อบรรจุพระศพของพระมหากษัตริย์  รวมถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อความสง่างาม สมฐานะบารมี และเป็นการส่งดวงวิญญาณไปสู่สรวงสวรรค์  แต่ปัจจุบันเมรุนกหัสดีลิงค์ใช้ในพิธีศพของพระเถระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น  การจัดสร้างเมรุนกหัสดีลิงค์สำหรับหลวงพ่อคูณจะเป็นนกที่กระพือปีกได้ หันหัว และกะพริบตาได้  โดยระดมช่างฝีมือจากทั่วประเทศ ทั้งจากนครราชสีมา มหาสารคาม กาฬสินธุ์ รวมทั้งช่างจากทางภาคเหนือ  มาช่วยกันเนรมิตเมรุแห่งนี้

หลังเสร็จสิ้นการจัดงาน  ตามความเชื่อของชาวอิสานจะถือว่า บริเวณที่จัดสร้างเมรุลอยของพระอริยสงฆ์ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์  ไม่ควรขึ้นไปเหยียบย่ำ  ดังนั้นทางคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น  จึงวางแผนจัดสร้างอนุสรณ์สถานครอบบริเวณ  รศ.ดร.ชูพงษ์  ทองคำสมุทร  คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  ม.ขอนแก่น กล่าวว่า การออกแบบจะสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบอิสาน รูปเจดีย์ทรงบัวเหลี่ยมคล้ายองค์พระธาตุพนม  สูง 32 เมตร  เน้นสีขาว  ภายในจัดแสดงรูปเหมือน  ชีวประวัติ และเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อ

ส่วนแนวคิดการออกแบบเช่นเดียวกับเมรุลอยคือ เน้นความเรียบง่าย  แบบอิสานบริสุทธิ์  เพื่อรำลึกถึงบุคคลสำคัญ  ไม่มีการตกแต่งที่ฟุ้งเฟ้อ  ในอนาคตจะถือเป็นแลนมาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งเพราะตั้งอยู่บริเวณทางเข้าของศูนย์การแพทย์แห่งที่ 2 โรงพยาบาลศรีนครินทร์  คาดว่า การก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือนจึงแล้วเสร็จ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ทีมข่าว77ขอนแก่น

ทีมข่าว77ขอนแก่น

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น