นางทิพาวดี กิตติคุณ ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าวว่า นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในคราวประชุมคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์ประเทศไทย ได้อนุมัติให้ยกเว้นค่าเข้าชมสวนสัตว์ (บัตรผ่านประตู) 6 สวนสัตว์ โดยมีสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี, สวนสัตว์เชียงใหม่, สวนสัตว์นครราชสีมา, สวนสัตว์สงขลา, สวนสัตว์อุบลราชธานี และสวนสัตว์ขอนแก่น ให้กับสำหรับเด็กที่อายุไม่เกิน 12 ปี หรือเด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าฟรีในวันที่ 23 ตุลาคม 2567 นี้ เนื่องในวันปิยมหาราช เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทย และสวนสัตว์ไทย คือ สวนสัตว์ดุสิต เดิมเรียก สวนดุสิต หรือ เขาดิวนา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2438 หลังจากที่พระองค์ได้ทอดพระเนตรกิจการสวนพฤกษชาติของต่างประเทศ และพบว่าสวนพฤกษชาติเป็นสถานที่อที่ให้ความรู้ความเพลิดเพลินและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน จึงมีพระราชดำริให้จัดสร้างขึ้นในประเทศไทยบ้าง โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ในพื้นที่ราบทางด้านทิศตะวันออกติดคลองเปรมประชากร (ถนนพระราม 5) ด้วยการขุดสระน้ำใหญ่ ประกอบคูคลองระบายน้ำ และถนน แล้วนำดินขึ้นมาเป็นเนินเขาเกาะกลางน้ำเรียกว่า วนา รวมอาณาเขต ส่วนนี้ทรงโปรดเรียกว่า เขาดินวนา โดยในขั้นต้นพระองค์ให้สร้างขึ้นสำหรับ เป็นที่ประพาส ทรงพระเกษมสำราญส่วนประองค์ และข้าราชบริพารฝ่ายในก่อน ดังนั้นสวนดุสิต หรือ เขาดินวนา จึงเป็นส่วนหนึ่งในพระราชฐานพระราชวังดุสิตสวนสัตว์ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ สร้างการมีส่วนร่วม และความสุขให้กับครอบครัว พร้อมทั้งได้เรียนรู้วิถีชีวิตสัตว์ป่านานาชนิดอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวัน
นางทิพาวดี กิตติคุณ ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าวว่า ด้วยกระแสความโด่งดังของ ลูกฮิปโปโปเตมัสแคระ หรือ ที่รู้จักกันในขณะนี้ คือ “หมูด้วง” หรือ “ด้วงมะพร้าว” ที่สื่อทุกสำนักทุกแขนง รวมถึงสื่อทางโซเชี่ยลช่วยกันประชาสัมพันธ์จนทำให้น้องๆ หนูๆ อยากจะมาชมความน่ารักของ “หมูด้วง” กันมากโดยเฉพาะในช่วงปิดเทอม และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวก็จะมากเป็นพิเศษ เฉลี่ยวันละ 5,000 คน วันจันทร์-วันศุกร์ เฉลี่ยวันละ 2,000 คน
ดังนั้น เพื่อเป็นการต้อนรับปิดเทอมของน้องๆ หนูๆ และเป็นการศึกษาเรียนรู้นอกห้องเรียนทางธรรมชาติ ทางสวนสัตว์ขอนแก่นได้นำฝูงหนูยักษ์ “คาปิบาร่า” กลับมาจัดแสดงยังบ้านหลังเดิมหลังจากได้ทำการปรับปรุงเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางสวนสัตว์ขอนแก่นได้เตรียมพื้นที่ส่วนจัดแสดงหนูยักษ์คาปิบาร่าให้น้องๆ หนูๆได้ชมอยู่ 3 ส่วนจัดแสดงด้วยกัน และสามารถป้อนอาหารให้กับหนูยักษ์ “คาปิบาร่า” ด้วยมือของท่านเองได้ หนูยักษ์คาปิบาร่านอกจากจะเป็นสัตว์ฟันแทะที่ใหญ่แล้วและกินอาหารได้ตลอด ยังมีบุคลิกหน้านิ่ง ไม่สนใจนักท่องเที่ยวที่มาชม จะถูกนักท่องเที่ยวก็เลยตั้งฉายาว่า “แก้งหน้าเฉย” และด้วยลำตัวที่มีขนยาว หยาบ นักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ติดตามอยู่ในโลกโซเชี่ยล และเป็นไวรัลมาแล้วก็จะเรียกว่า “แก้งหมามะพร้าว” หรือ “หมากีวี” เนื่องจากมีลักษณะขนและสีผิวที่คล้ายกับ ผลมะพร้าวและลูกกีวี นั่นเอง
นางทิพาวดี กิตติคุณ ผู้อำนวยการสวนสัตว์ขอนแก่น กล่าววต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ รองรับนักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปคู่กับแมสคอตสัตว์ป่าน่ารัก ได้ที่อาคารบริการนักท่องเที่ยว และตามส่วนจัดแสดงต่างๆ เพื่อให้น้องๆ หนูๆ ได้ถ่ายรูป กิจกรรมให้อาหารสัตว์ เช่น หมีควาย นกแก้วซัลคอนัวร์ เสือ สิงโต กวางหลากหลายสายพันธุ์ที่ส่วนจัดแสดงทุ่งแสนกวาง ยีราฟ ช้างไทย และกิจกรรมไหว้พระขอพรพระประจำสวนสัตว์พระพุทธมณีศิลา และทำบุญกับพระประจำวันเกิดที่ลานพระพุทธ บริเวณส่วนจัดแสดงสัตว์แอฟริกา
นอกจากนี้แล้วยังมีการแสดงความสามารถของแมวน้ำ ขวัญใจของน้องๆ หนูๆ ท่านผู้ปกครองสามารถพาน้องๆ มาชมได้ที่รอบเวลา 11.00 น. 13.00 น. และรอบ 15.00 น. และยังพาคอบครัวเล่นน้ำ ที่สวนน้ำสวนสัตว์ขอนแก่น (ทะเลบนภู) ได้ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
- ปลื้ม..“ทีมไทยแลนด์” รายงานคนอเมริกาใต้หลายประเทศชอบหนังไทย ด้านนายกฯสั่งการเร่งกระตุ้นส่งเสริมนักลงทุนมาไทยพร้อม ผลักดันSoft Power…
- AOT ย้ำเตือนอันตรายจากการปล่อยโคมช่วงลอยกระทง 2567
- กรมอุทยานฯ ร่วมกับเทศบาลเมืองหัวหิน เปิดยุทธการจับลิงแสม ย้ายไปที่พักพิงแห่งใหม่
- ตรัง กลุ่มผู้พิการท่องทะเลตรังสร้างประสบการณ์ที่ไร้ขีดจำกัด ให้ทุกคนได้สัมผัสอย่างเท่าเทียม
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: